เรื่องเล่าพันทิป เพื่อนบ้าน
หลายๆคนบอกว่าการมีเพื่อนบ้านที่ดี เหมือนถูกหวยรางวัลที่1 เมื่อก่อนเราและพี่สาวก็เคยคิดเช่นนั้น แต่ตอนนี้เราคิดว่ามันก็อาจจะไม่จริงเสมอไป
เรื่องของเรากับพี่สาวเริ่มจาก ตอนที่เราเริ่มหาซื้อบ้านตามชานเมือง เพราะคอนโดที่เรากับพี่สาวอยู่เริ่มจะคับแคบเพราะข้าวของของเราสองคนเยอะมาก และเราอยากให้มีที่พักสำหรับแม่เวลาขึ้นมาหาหมอที่กรุงเทพด้วย เราจึงตระเวนหาบ้าน จนมีเซลท่านหนึ่งแนะนำบ้านเดี่ยวมือสองทำเลดี ไม่ไกลจากในเมืองมาก พอเรากับพี่สาวไปดูก็ถูกใจมากที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย ตัวบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว เราดูบรรยากาศรอบๆแล้วก็โอเค คนไม่พลุกพล่าน เนื่องจากอยู่เกือบท้ายซอย (ถัดจากบ้านท้ายซอยมากหนึ่งหลัง ) หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออกติดกับถนน เรากับพี่สาวจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้
ในช่วงแรกที่รีโนเวทบ้านและขนย้ายของเพื่อเตรียมย้ายเข้าไปอยู่ เราก็มีโอกาสได้เจอกับคนทำความสะอาดบ้านของบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ก่อนจะถึงบ้านเรา เธอเล่าว่าเจ้าของบ้านทำงานอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ นานๆทีจะกลับมาพักที่บ้าน โดยจ้างเธอให้มาทำความสะอาดบ้านให้เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ส่วนเพื่อนบ้านอีกหลังเราไม่เคยเจอ ตอนนั้นเราคิดว่าคงออกไปทำงานเพราะเราไปในตอนกลางวัน
เริ่มจากวันแรกที่เรากับพี่สาวย้ายไปอยู่ ตอนประมาณสองทุ่มเราได้ยินเสียงเพลงลูกกรุงจากบ้านหลังที่อยู่ถัดเราไป (บ้านหลังสุดท้ายของซอย) แต่เพลงก็ไม่ได้ดังจนถึงขั้นรบกวนเรากับพี่สาว เราได้ยินสักพักเสียงก็หายไป ในคืนถัดมาเราก็จะได้ยินเสียงเพลงในช่วงเวลาเดิมทุกๆวัน บางวันก็มีเสียงเหมือนคนรดน้ำต้นไม้ บางวันก็มีเสียงเหมือนคนทำครัว เราก็แปลกใจเล็กน้อยทำไมไม่ทำกลางวัน เพราะตอนกลางวันเราไม่เคยเห็นคนออกจากบ้านนี้เลย
จนคืนวันหนึ่งพี่สาวเราไปต่างจังหวัดและเราไปงานเลี้ยงบริษัทกลับดึกประมาณตีหนึ่ง ช่วงที่เราลงจากรถเพื่อมาเปิดประตู เราก็ต้องตกใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็น คุณยายแก่ๆ ยืนยิ้มให้ และพูดทักทายเรา ‘’วันนี้กลับดึกจัง’’ เราก็ยิ้มตอบแต่ยังงงๆ ว่าคุณยายคนนี้เป็นใคร เราจึงตอบไปว่า ‘’ค่ะ’’ แล้วคุณยายแกก็บอกว่าแกอยู่บ้านติดกับเรา และชี้ไปทางบ้านหลังสุดซอย เราก็บอกออค่ะ คุณยายนอนดึกจังเลยค่ะ แล้วมาเดินทำอะไรแถวนี้ค่ะ เราก็ถามไปตามประสา คุณยายแกก็บอกว่าแกนอนดึกเป็นประจำ แกมาเดินดูเผื่อมีพวกขโมย ขโจร และเห็นว่าบ้านเรายังไม่มีใครกลับมาเลยเดินๆ มาช่วยดู เราก็ยิ้มแห้งๆ แล้วก็บอกขอบคุณ แล้วก็ขอตัวเข้าบ้าน แต่ก็อดนึกไม่ได้ว่าแกรู้ได้ไงว่าเรายังไม่กลับบ้าน หรือแกเห็นรถไม่อยู่ เมื่อคิดอย่างนั้นเราก็ไม่ได้ติดใจอะไร จึงอาบน้ำเข้านอน พอเช้าของอีกวันซึ่งเป็นวันหยุด เราเดินออกมาหน้าบ้านและมองเข้าไปในบ้านเราก็ไม่เห็นใครในบ้าน
ผ่านไปประมาณเดือนกว่าๆเราก็ยังได้ยินเสียงเพลงช่วงสองทุ่มทุกวัน แต่นานๆครั้งจะเห็นคุณยายออกมานั่งเก้าอี้โยกหน้าบ้าน แต่เราก็จะเห็นคุณยายเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เราจึงถามพี่สาวว่าเคยเจอคุณยายบ้างไหม พี่สาวเราเล่าว่าเคยเจอ และคุยกันประจำแกชอบมาเดินเล่นหน้าบ้านแต่บางทีก็เลยมาหน้าบ้านเรา แกบอกว่าตอนดึกนอนไม่หลับต้องออกมาเดิน เหมือนคนแก่ขี้กังวล กลัวโน้นนี้นั้นอะมั้ง พี่สาวเราว่าแบบนั้น พี่สาวเรายังบอกว่า คุณยายแกอยู่กับคุณตาสองคนในบ้าน นานๆทีลูกหลานแกจะมาเยี่ยมและซื้อของกินมาให้ คุณยายแกเป็นคนน่ารักมาก อัธยาศัยดี แกบอกกับพี่สาวเราว่าบางทีแกก็เหงาอยู่กับคุณตาสองคน คุณตาก็ป่วยไม่ยอมออกจากบ้าน เพื่อนบ้านก็ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะย้ายบ้านกันบ่อยมาก และคุณยายยังบอกพี่สาวเราอีกว่าตอนสองทุ่มแกเปิดเพลงรบกวนหรือเปล่า ถ้ารบกวนบอกแกได้นะ เรากับพี่สาวยังคุยกันว่าโชคดีที่เรามีเพื่อนบ้านดี เพราะแกไม่เคยมารบกวนหรือทำอะไรให้เราไม่สบายใจเลย
จนมีอยู่วันหนึ่งเป็นวันที่ทำให้เรากับพี่สาวเราถึงกับเข่าทรุด เมื่อเราได้มีโอกาสเจอลูกชายของคุณยาย ลูกชายของคุณยายทักเราขณะที่เรากำลังเดินอยู่หน้าบ้าน สวัสดีครับเพิ่งยายมาอยู่ใหม่หรอครับ เราก็ตอบกลับและทักทายไปตามมารยาท และถามว่ามาเยี่ยมคุณยายหรอค่ะ
ลูกชายของคุณยาย ทำหน้างงๆเหมือนแปลกใจ และถามกลับมาว่า ” รู้จักคุณแม่ผมด้วยหรอครับ”
เราก็ตอบไป ” ค่ะ เคยเจอแกออกมาเดินหน้าบ้านกลางคืนบ่อยๆค่ะ”
ลูกชายคุณยายทำหน้าถอดสี และบอกกับเราว่าคุณพ่อกับคุณแม่ผมเสียไปเกือบปีแล้วนะครับ คราวนี้กลับเป็นเราที่ใจเต้นแรง รู้สึกชากับคำตอบที่ได้รับ หลังจากที่เราตั้งสติได้เราก็เรียกพี่สาว มานั่งคุยกับลูกชายของคุณยาย ลูกชายของคุณยายเล่าว่า คุณยายกับคุณตาแกเสียที่บ้านหลังนี้ คุณตาแกเสียก่อน เหมือนแกนอนหลับแล้วไม่ตื่นอีกเลย ส่วนคุณยายแกก็เสียใจ ตรอมใจ ตอนที่แกเจ็บใกล้จะเสีย แกดื้อมากไม่ยอมไปนอนที่โรงพยาบาล แกบอกว่าแกจะอยู่กับคุณตาที่บ้านหลังนี้ จนแกสิ้นใจที่บ้านหลังนี้ และเก็บอัฐิของทั้งสองไว้ในบ้าน ส่วนลูกชายแกก็ย้ายไปอยู่บ้านเมียที่ต่างจังหวัด จึงไม่ค่อยได้กลับมาดูแลบ้าน
หลังจากที่เรากับพี่สาวรับรู้เรื่องของคุณยายและคุณตาก็ทำเอานอนไม่หลับรู้สึกกลัวไม่กล้าที่จะออกไปนอนบ้านในเวลากลางคืน จนในที่สุดเราและพี่สาวก็ทนกับความกลัวนั้นไม่ได้ ต้องประกาศขายบ้านและย้ายกลับไปอยู่คอนโดชั่วคราวจนกว่าเราจะหาซื้อบ้านใหม่ได้ เรื่องนี้มันทำให้เรากับพี่สาวเรารู้ว่าบางครั้งเพื่อนบ้านดีก็อาจจะทำให้เราต้องย้ายบ้านหนีได้เหมือนกัน ถ้าเพื่อนบ้านนั้นไม่ใช่คน
ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิป
อ่านเรื่องผีอื่นๆ GhostStorythai.com