เล่นเป็นเพื่อนหนูหน่อย
เล่นเป็นเพื่อนหนูหน่อย
สวัสดีค่ะ หนูชื่อบิววันนี้หนูจะมาเล่าประสบการณ์ที่หนูเจอมาตอนเข้ามาทำงานกรุงเทพค่ะ เริ่มกันเลยนะคะ หนูเป็นเป็นคนภาคตะวันออกเข้ามาทำงานกรุงเทพพร้อมกับแฟน หนูได้งานสถานีวิทยุแห่งหนึ่งในตำแหน่งประสานงาน ส่วนแฟนได้ตำแหน่งวิศวกรในบริษัทอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอาชีพประสานงานของหนูต้องทำงานเป็นกะเวียนเปลี่ยนกับเพื่อนไปในแต่ละเดือน
หนูทำงานมาเกือบจะครึ่งปี จนถึงวันที่เกิดเรื่อง วันนั้นหนูต้องเข้าเวรเที่ยงคืนออก8โมงเช้า ปกติงานหนูต้องอยู่กับพี่ช่างคุมเสียงอีกคนหนึ่ง แต่คืนนั้นตอนตี1กว่าๆ พี่ช่างแกบอกว่าแฟนปวดท้องจะไปดูหน่อยเดี๋ยวรีบกลับมาให้หนูเฝ้าเทปรายการให้หน่อย หนูก็รับปากค่ะว่าจะดูให้
หนูนั่งเฝ้ารายการแล้วเปลี่ยนเทปที่ออกอากาศให้พี่ช่างจนไปถึงเกือบจะตี3อยู่ๆหน้าห้องก็มีเสียงคนวิ่ง ตึ่กๆๆๆๆ ทีแรกหนูไม่ได้สนใจอะไรแต่เสียงวิ่งนั้นวิ่งผ่านหน้าห้องอีก4รอบ จนหนูเริ่มสงสัยว่าใครมาวิ่งตอนนี้เลยเปิดประตูออกไปดู แต่ก็ไม่มีใครมีแต่ความว่างเปล่า ทางเดินโล่งๆเป็นทางยาวมีห้องออกอากาศวิทยุคลื่นอื่นอีก5ห้องเรียงอยู่ตามทางเดินห้องหนูจะอยู่ตรงกลาง
พอหนูเข้าห้องไปอีกสักพักก็มีเสียงวิ่งอีกหนูเปิดไปอีกครั้งก็ไม่เจอ ทีนี้หนูคิดว่าเพื่อนห้องข้างๆจะมาแกล้งเลยปิดประตูแล้วนั่งลงข้างประตูคิดจะจับให้ได้ว่าใครวิ่ง พอมีเสียงวิ่งผ่านประตูหนูก็รีบเปิดประตูออกไปทันที พร้อมกับตะโกนออกไปว่า”จ๊ะเอ๋! จับได้แล้ว”
แต่หนูก็ต้องตกใจเพราะที่ทางเดินไม่มีใครเลยค่ะ มองซ้ายมองขวาก็ไม่มีใคร ไม่มีทางจะเป็นไปได้ว่าจะมีใครหลบได้เร็วขนาดนั้น ตอนนั้นหนูรู้สึกขนหลังลุกขึ้นมาทันที รีบปิดประตูเข้ามาในห้องนั่งเหงื่อแตกทั้งที่แอร์ในห้องเย็นมาก คิดในใจเมื่อไหร่พี่ช่างจะกลับมาซักที แล้วอยู่ๆก็มีเสียงพูดขึ้นว่า”จับไม่ได้หรอก จ้างก็จับไม่ได้ ฮิๆๆๆ”เสียงนั้นเป็นเสียงเล็กๆของเด็กผู้ชาย หนูตกใจไม่รู้จะทำยังไงเลยยกมือพนมแล้วคิดในใจ”อย่ามาแกล้ง อย่ามาหลอกกันเลย เดี๋ยวพี่จะทำบุญไปให้” ตอนนั้นแน่ใจแล้วค่ะว่าเป็นผีแน่ๆ
พอบอกเสร็จก็ก็มีเสียงครืดๆบนเพดาน ทั้งๆที่หนูไม่อยากจะดูแต่มันมีอะไรบางอย่างทำให้หนูเงยหน้ามองขึ้นไป เท่านั้นล่ะค่ะหนูอ้าปากค้างจะร้องกรี๊ดก็ไม่ออก ภาพที่หนูเห็นมีเด็กยื่นหน้ามาจากในช่องแอร์ที่ฝาปิดไม่มี ยิ้มแป้นแล้วพูดกับหนูว่า “พี่จ๋ามาเล่นกันเถอะ มาเล่นเป็นเพื่อนหนูหน่อย บุญหนูไม่เอาก็ได้พ่อทำให้ประจำแล้ว” น้ำตาหนูมันไหลพรากออกมาเป็นเขื่อนแตก ฝืนเอื้อมมือไปคว้าเสื้อแจ๊คเก็ตข้างตัวมาคลุมโปงร้องไห้อยู่ในนั้นไม่กล้าเปิดออกมาเพราะตอนที่คลุมโปงก็มีเสียงดังตุ้บ!เหมือนมีอะไรตกลงมาจากเพดาน แล้วเสียงเดินรอบห้อง
แล้วอยู่ๆก็มีมือมาจับไหล่ หนูกรี๊ดลั่นห้อง แต่ก็มีเสียงเรียก”บิวๆๆ พี่เอง เป็นอะไรน้อง เปิดเสื้อสิพี่เอง” หนูค่อยๆแง้มเสื้อมองก็เจอพี่ช่างยืนทำหน้างงๆ หนูถึงกับร้องไห้โฮออกมาเลย พอสติเริ่มกลับมาก็เล่าเรื่องที่เกิดให้พี่เค้าฟัง
“เวรกรรม พี่ขอโทษนะ พี่ผิดเองที่ลืมเอาเจ้าเพชรไปด้วย พี่ลืมไว้ในแจ๊คเก็ตบนมิกเซอร์ พี่ขอโทษจริงๆน้องบิวเลยต้องมาเจออะไรอย่างนี้ พี่สัญญานะว่าต่อไปพี่จะไม่ลืมพาไปด้วย พี่ขอโทษบิวอีกทีนะบิว”พี่ช่างคุมเสียงพูดขอโทษพร้อมยกมือไหว้ท่วมหัวแล้วก็หยิบรูปปั้นเด็กตัวเล็กๆในเสื้อแจ๊คเก็ตให้หนูดู
“บิวจะไม่โกรธพี่ถ้าพี่สัญญาว่าต่อไปจะไม่ทิ้งห้องไปไหนแล้วปล่อยให้บิวอยู่คนเดียว”หนูบอกพี่ช่างเสียงเคืองๆ พี่ช่างก็รับปาก แล้วหันไปพูดกับกุมารในมือว่า”แสบนักนะเพชร ไปแกล้งพี่เค้า ให้รางวัลปลอบใจพี่เค้าด้วยล่ะ”
หลังจากคืนนั้นผ่านไปหนูก็ไม่เจออะไรอีกจนมาถึงวันที่ล็อตเตอรี่ออกปรากฎว่าหนูถูกรางวัลที่สามห้าใบค่ะ หนูคิดถึงเจ้าเพชรทันที เลยไปถวายสังฆทานให้แล้วซื้อของเล่นไปให้พี่ช่างไปให้เจ้าเพชรเล่นที่บ้านแก้เหงาจะได้ไม่มาชวนหนูเล่นเป็นเพื่อนอีก
ขอขอบคุณ แอดมินโจ๊ย