พนักงานสยอง วิลล่าผีแห่งหนึ่งในภาคใต้…
ปกติเป็นคนทำงานโรงแรม เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วครับ ตอนนั้นได้ย้ายออกจาก กทม ไปทำงานที่โรงแรมสวยมากๆแห่งนึง ที่ภาคใต้ ขอไม่บอกจังหวัดนะครับ ตำแหน่งที่ทำจะเป็นตำแหน่งที่ต้องใกล้ชิดกับแขก ดูแลแขกโดยตรง บางที่เรียก butler บางที่เรียก villa host หรือ resort host แล้วแต่โรงแรม ปกติแขกที่พักที่นี่จะได้ villa host ทุกวิลล่า
แขกที่เข้าพักแต่ละวัน จะถูกกำหนดโฮสขึ้นมาแล้วว่าใครเป็นคนดูแล วันนั้นแขกที่ผมดูแลเป็นแขกมาฮันนิมูน จะได้ไวน์ฟรี และโฮสต้องเซ็ตให้แขกก่อนมา
รีสอร์ทเป็นแนวออกป่าๆ ต้นไม้เยอะ ตัวรีสอร์ทอยู่ใกล้ป่ายางด้วยครับ เรารู้แล้วว่าแขกจะมาเช็คอินหลังจากเราเลิกงาน ซึ่งปกติเลิกสี่ทุ่ม เราเลยตั้งใจจะเอาไวน์มาเซ็ทในตัววิลล่าก่อนเลิกงงาน ตอนนั้นสามทุ่มก็ตั้งใจเอาไปเซ็ทไม่ได้คิดหรือกลัวอะไร โซนวิลล่าของแขกที่จะมา แบ่งเป็นสองโซน โซนติดกับป่า กับโซนที่อยู่ช่วงกลางของรีสอร์ท สองโซนนี้ถูกกั้นด้วยโพงหญ้าเตี้ยๆ และข้ามไปอีกฝั่งด้วยสะพานแขวน
เราตัดสินใจไม่ขับรถบักกิ้ไปอีกโซนที่ติดกับป่า วิลล่าอยู่โซนโน้น เพราะทางมืดและเล็ก ตอนนั้นขับยังไม่คล่องมากครับ ไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนด้วย เลยขับไปจอดตรงสะพานแขวนแล้วเดินข้ามไปฝั่งนู้น มือข้างนึงไสลด์จอมือถือ แขนข้างนึงโอบถังไวน์ไว้ เลยเดินช้าๆ เพราะกลัวของตก แต่พอเดินบนสะพาน รู้สึกว่าสะพานมันแกว่งแรงมาก ทั้งๆที่เราเดินช้า ความรู้สึกตอนนี้ไม่มีคำว่าผี หรือกลัวอะไรเลยจริงๆ เลยหันหลังกลับไปมอง กำลังจะไปแซวว่าทำไมเดินแรงจัง นึกว่ามีพนักงานคนอื่นเดินตาม พอหันหลังกลับไป ต้องช็อคพักนึง เหมือนเห็นผู้หญิงยืนจับหัวสะพาน เราก็รีบหันหน้ากลับมา ตอนนั้นตกใจมาก คิดอยู่ว่าใช่แขกหรือเปล่า แต่ก็ไม่กล้าหันหลังกลับไปมอง
เลยรีบซอยเท้าไปวิลล่าที่อยู่ตรงหัวมุม ลองนึกภาพนะครับ สะพานอยู่ต่ำกว่าระดับทางเดิน เวลาเดินขึ้นต้องใช้บันไดห้าหกขั้นเดินขึ้น จังหวะที่เราเดินขึ้น ระดับสายตาของเรา จะมองเห็นช่องว่างใต้บันได ผมเห็นเงาดำๆ เหมือนนั่งกุมเข่าอยู่ ความรู้สึกตอนนั้น คือใจตกไปอยู่ตาตุ่ม อยากร้องดังๆ แต่กลัวรบกวนแขก
เลยรีบตั้งใจเดินไปที่วิลล่า พอเข้าไปในวิลล่าด้วยความมืด และเงียบทำให้กลับหนักเข้าไปอีก ด้วยความกลัวไม่กล้าเดินกลับ เลยโทรให้เพื่อนที่ฟร้อนมารับ พอเพื่อนมา นางกดกริ่งไม่ได้เรียกเรา กดแล้วไปยืนข้างๆประตู ซึ่งถ้าเรามองจากตาแมวจะไม่เห็น
ตอนนั้นน้ำตาไหลแล้ว นึกว่าผีหลอกจริงๆ ได้แต่อุทานมาว่า อีเหี้ย สรุปนางก็ เรียกชื่อเราแล้วบอก ชั้นเองเธอ เราก็ชื้นใจที่เป็นเพื่อนมารับ เราเลยส่งข้อความเข้ากรุ๊ปของแผนก ว่าไม่มาวิลล่านี้แล้วนะ น่ากลัวมาก แต่ไม่ได้อธิบายอะไร หลายๆ คนก็บอกว่า พี่ก็เจอแบบนู้น แบบนี้ ตรงนั้นมีผี อารมณ์ตอนนั้นเค้าอาจจะแกล้งเพราะเห็นเรากลัวหรืออะไรไม่รู้ พออีกหลายๆ วันถัดมา ปกติแล้วที่นี่ เราจะเอาห้องสปาให้แขกอาบน้ำหลังจากที่แขกเช็คเอ้า ให้แขกใช้ ปกติพนักงานสปา จะกลับสามทุ่ม แล้วแขกผมจะมารีสอร์ทตอนสามทุ่มกว่า
ฝั่งสปาเลยบอกว่า ให้มาเช็คดูของ มาปิดไฟด้วย เราก็รับปาก เพราะเป็นหน้าที่ของเรา พอแขกอาบน้ำเสร็จเกือบๆสี่ทุ่ม รปภ ก็เดินมาเช็คเพราะไฟยังเปิดอยู่ ที่ปกติสามทุ่มต้องปิดแล้ว ที่ก็คุยกับ รปภ ว่าแขกมาใช้นู่นนี่นั่น พอนี่กลับบ้านตอนสี่ทุ่มเลยแวะคุยกับ รปภ ตรงทางออกรีสอร์ทว่า ปกติเดินตรวจทุกที่เลยเปล่า ดึกๆดื่นๆ ไม่กลัวผีหรอ
เค้าก็ตอบเราว่า กลัวสิน้องแต่มันต้องทำ ยิ่งตรงหัวโค้งวิลล่านั้นนะ แถวนั้นเคยมีผู้หญิงมากรีดยาง โดนฆ่าข่มขื่น เคยมีคนเจอบ่อย เราก็อ๋อๆ จริงหรอ แล้วก็เอากลับเก็บมาคิดที่ห้อง ตรงนั้นมันที่เราเจอเงาวันนั้นนี่ ก่อนเข้างานวันถัดมา ปกตินี่จะไปกินข้าวที่แคนทีนของ รร แต่วันนนั้นรู้ว่า เมนูที่เค้าทำ เป็นอาหารที่เราไม่ชอบ เลยกินร้านตามสั่งข้างนอก แถว รีสอร์ท เลยแอบถามป้าเค้าว่า แถวนี้มีคนเคยโดนข่มขืนอะไรไหม
ป้าเค้าก็บอกว่า มี แต่มันหลายปีแล้วแหละ มีผู้หญิงโดนข่มขืนตอนไปกรีดยาง แล้วโดนฆ่า เอาศพใส่กระสอบปุ๋ย ตอนเจอสภาพเค้าเหมือนคนนั่งกอดเข่า น่าสงสารเค้านะ เค้าเป็นเด็กขยัน หน้าตาดี สรุปแล้วคือคิดว่าตัวเองโดนแล้วจริงๆ แล้วเราก็ไม่กล้าขับบักกี้ หรือเดินคนเดียวตอนกลางคืนที่รีสอร์ทอีกเลย
ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิป