ผมทำตามคำสั่งของหลวงตาทันที ในขณะที่ชายหนุ่มร่างผอมที่ชาวบ้านหามมา ทำท่าดิ้นทุรนทุรายดวงตาทั้งสองข้างมองผู้คนอย่างตาขวางๆ....Read More
“เพื่อนร่วมทางพิเศษ…”เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณเบลส์ คุณเบลเล่าว่า เหตุการณ์ในเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ ปี 2 ตั้งแต่เล็กจนโตผมไม่เคยเข้ากรุงเทพฯเลย เพราะเนื่องจากผมเป็นเด็กบ้านนอก ไม่มีเพื่อนหรือญาติที่กรุงเทพฯ ด้วย..เคยไปไกลสุดก็แค่ลำพูล พอดีมีอยู่ช่วงนึง ผมมีธุระของทางมหาวิทยาลัย ต้องเข้ากรุงเทพฯ ในใจก็แอบตื่นเต้นเพราะมันเป็นครั้งแรก.. ในสมัยนั้น สายการบินไม่ได้มี Low Cost เหมือนปัจจุบัน ดังนั้น การเดินทางจากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ ที่นิยมที่สุดและง่ายที่สุดก็คือ รถทัวร์โดยสารครับ ราคาก็เริ่มต้นที่ 400 – 900 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมงโดยประมาณ วันนั้นผมได้ซื้อตั๋วรถทัวร์ปรับอากาศของบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างจะมีชื่อเสียงพอสมควร ผมเดินทางเที่ยว 18.00 น. ครับ วันนั้นเป็นคืนวันอังคาร จำได้แม่นเพราะผมต้องทำธุระวันพฤหัสบดี เลยกะจะเดินทางไปก่อนล่วงหน้า เพื่อสำรวจถนนหนทางที่ผมจะต้องไปธุระ เผื่อพลาดจะได้ไม่เสียงาน.. ตอนที่จองตั๋วผมก็ดูที่นั่งในลิส พอดีรถคันที่ผมจะไป ห้องน้ำมันอยู่ตรงกลางคันรถ ผมเลยเลี่ยงๆ ที่จะนั่งใกล้ เพราะกลัวเหม็น เลยเลือกที่นั่งหลังสุดชิดด้านในติดหน้าต่างเลย ตอนที่ผมไปซื้อตั๋ว ที่นั่งแถวหลังก็ยังไม่มีใครเอา ก็เลยตัดสินใจเอาแถวสุดท้ายนี้แหล่ะ […]Read More
ครั้งหนึ่งพ่อแม่เคยพาผมไปพบจิตแพทย์เด็ก หมอบอกว่าโรคสองบุคลิกในเด็กอายุท่าผมนั้นเกิดได้ยากมาก แต่ทีนี้ไม่รู้ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลิกพาไปหาหมอ อาจะเพราะปัญหาด้านการเงินหรืออะไรสักอย่าง หลังจากนั้นพวกท่านก็เลี้ยงเรามาแบบตามมีตามเกิด เลี้ยงผมในตอนกลางวัน เล่านิทานให้พี่ฟังก่อนนอนตอนกลางคืน เป็นแบบนั้นมาหลายปี จนผมเรียนจบมหาลัย Read More
สวัสดีครับก่อนอื่นผมอยากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆกับตัวผมในช่วงประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ที่บ้านเหมืองหม้อ จังหวัดแพร่ ช่วงนั้นก็ตามเคยครับ เป็นช่วงของวัยรุ่น ก็มี เที่ยวเตร่ กินเหล้าสังสรรค์ ไม่กลับบ้านนอนบ้านเพื่อน ตามประสาวัยรุ่นครับ ……..และเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำของผมนั้น มันเกิดขึ้นเมื่อวันเกิดของแม่ไอ้ทีเพื่อนผม แม่ไอ้ทีมันเลี้ยงหมูกระทะ ไอ้ทีมันก็เลยชวนผมกับเพื่อนไปกินด้วย เพื่อนผมคนนี้ชื่อโอครับ วันนั้นผมก็ขี่มอไซค์ไปรับไอ้โอที่บ้าน แล้วผมกับไอ้โอก็ไปกินหมูกระทะกันอย่างเอร็ดอร่อย จนร้านปิดประมาณ3ทุ่มครึ่ง พวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนผมกับไอ้โอก็ยังไม่อยากกลับบ้าน ก็เลยไปซื้อเบียร์มากินกันที่ร้านขายอาหารตามสั่งของน้าที่รู้จักแถวๆข้างโรงเรียนผม แล้วตอนนั้นก็ได้เจอเพื่อนที่รู้จักขี่มอไซค์ผ่านแถวนั้นพอดีก็เลยชวนคุยกันกินเบียร์ด้วยกัน จนตี2กว่าๆ ผมกับไอ้โอก็เลยหาที่นอน เพราะไอ้โอกับผมไม่อยากเข้าบ้านดึก ก็เลยชวนกันไปนอนบ้านเพื่อนอีกคนชื่อ นิค บ้านไอ้นิคอยู่บ้านเหมืองหม้อครับ ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ผมก็เลยจะโทรไปบอกมันก่อนว่าจะไปนอนด้วย แต่ตังโทรศัพท์ดันหมด ผมกับไอ้โอก็เลยขี่มอไซค์ไปที่บ้านมันเลย จนถึงบ้านไอ้นิค ผมก็เห็นบ้านมันไม่เปิดไฟเลยสักดวงมืดตึ๊ดตื๋อ ผมกับไอ้โอก็เรียกไอ้นิคอยู่หน้าบ้านพักใหญ่แต่ก็เงียบกริบ ผมกับไอ้โอเลยไม่รู้ทำยังไง จะเข้าบ้านมันไปดื้อๆเลยก็ยังไงๆอยู่ ก็เลยคุยกันว่าจะกลับไปนอนบ้านไอ้โอ (บ้านไอ้โอนี้อยู่ในตัวเมือง)เพราะมันดึกมากแล้วประมาณตี3กว่าๆ ผมก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงในเรื่องของน้ำมันรถ กลัวว่าจะไปไม่ถึงบ้านไอ้โอ เพราะรถผมน้ำมันเหลือน้อยประมาณขีดแดงๆ ผมก็เลยบอกไอ้โอว่าให้ขยับรถไปที่หน้าปากซอยซึ่งเป็นสามแยก เพราะมันมีไฟกิ่ง จะได้ดูน้ำมันเห็น ว่าเหลือเท่าไหร่ ผมก็ดูน้ำมันได้สักพักก็ดันมีเสียงหมาเห่าแล้วก็หอนพร้อมกันเหมือนลักษณะมันเห่าหอนไล่มาทีละบ้านๆ จากบ้านไกลๆค่อยๆไล่มาใกล้ๆที่ที่ผมอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ สักพักก็มีคนเดินผ่าน3แยกที่ผมอยู่ ผมก็มองกับไอ้โอ จนเขาเดินผ่านไป ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่ก็มีแอบคิดว่าที่แท้หมาเห่าหมาหอนเพราะคนเดินผ่านนี้เอง […]Read More
วันนั้นเป็นวันพฤหัสบดี วันพระหรือไม่ผมไม่รู้ ผมนับถือศาสนาคริสต์ เวลานั้นประมาณบ่ายโมง ผมนั่งเล่นเฟสบุ๊คอยู่ แล้วก็เลื่อนมาเจอเพจ อันซีนไทยแลนด์ เห็นน้ำตกสวยงามมากน่าไปสุดๆ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ผมจึงคุยกับแฟน และตกลงกับแฟนที่จะไปเที่ยวกาญจนบุรีกันสองคน โดยขี่มอเตอร์ไซค์ไป โดยส่วนตัวผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวขึ้นเขาเลาะหาดอยู่แล้ว มันได้บรรยากาศกว่าขับรถไปเป็นไหนๆ ผมและแฟนใช้เวลาเก็บเสื้อผ้าไม่นานก็ออกเดินทาง ออกเดินทางประมาณบ่ายสอง ใช้เวลาเดินทางจาก บางนาตราด ไปถึงกาญจนบุรี ประมาณ สองชั่วโมงเศษ แวะเที่ยวในตัวเมืองตามจุดหลักๆ ที่คนส่วนมากจะไปกันไม่ว่าจะเป็น สะพาน สถานีรถไป จนไป พระอาทิตย์ตก ที่ สุสานทหารสัมพันธมิตร เมื่อเห็นว่าเย็นแล้วจึงคุยกับแฟน เพื่อออกเดินทางต่อ เพราะยังไม่มีที่พักกันเลย ปกติก็วอร์คอินกันอยู่แล้วครับ จึงออกจากตัวเมืองมุ่งหน้าไปยังน้ำตกและหาที่พักที่ไม่ไกลจากน้ำตกมาก เพื่อวันพรุ่งนี้ จะไปขี่รถไปเที่ยวน้ำตกกัน ออกจากตัวเมืองก็วิ่งทางถนนลาดหญ้า-บ่อพลอย ขณะนั้นเป็นเวลา น่าจะสองทุ่มเพราะได้แวะทานข้าวข้างทางกันนานพอสมควร ทางมืดมากไฟทางไม่ต้องพูดถึง ไม่มี!!! ขี่ไปแฟนก็บอกน่ากลัวเปลี่ยวมากข้างทางมีแต่ป้ายรีสอร์ท เพราะจากถนนเส้นนี้จะไปรีสอร์ท ต้องเลี้ยวเข้าซอยไปอีกเป็นกิโลจึงจะเจอรีสอร์ท ขี่ไปซักพักไม่ไหวน่ากลัวเลยบอกแฟน เจอรีสอร์ทไหนเลี้ยวเลยละกัน แล้วก็มาเจอป้ายรีสอร์ทxxxxx ป้ายบอกให้เลี้ยวเข้าไป หนึ่งกิโล เราก็เลี้ยวเข้าไป ทางขรุขระมากสองข้างทางมีแต่ป่าหญ้ารก ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านลงมาตามทาง ที่ผมขี่เข้าไป มองไมล์รถขี่เข้ามาประมาณ แปดร้อยเมตรแล้ว […]Read More