เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมาค่ะ เราไปเที่ยวเพชรบูรณ์รถเยอะมากตามที่เป็นข่าว แต่ไม่ได้ไปภูทับเบิกนะคะ เพราะไปแบบไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า คือหยุดยาวไปเที่ยวกันเถอะ ประมาณนี้ค่ะ พอไปถึงเพชรบูรณ์กะว่าจะไปไหว้พระที่วัดผาซ่อนแก้ว แล้วเที่ยวแถวนั้นเลยไปหาที่พักแถวนั้น ปรากฏว่าเต็มทุกที่ ถามเป็นสิบไม่มีว่างเลยอะไรจะซวยแท้ เลยชวนกันขับรถออกมาห่างพอสมควร เจอรีสอร์ทใหญ่เลยค่ะ (ตอนกินข้าวเที่ยงดูในหนังสือท่องเที่ยวที่รีสอร์ทมีไว้ให้อ่าน มีโรงแรมนี้ลงในโฆษณาด้วยค่ะ) รีสอร์ทอยู่ริมแม่น้ำได้ยินเสียงน้ำตกด้วยค่ะ ด้านหน้าติดถนนใหญ่ปลูกต้นไม้เต็มไปหมด ข้างแม่น้ำจะมีกระท่อมไว้ให้นั่งทานข้าวริมน้ำด้วยค่ะ ทีมเรามากัน 6 คนค่ะ เรากับน้องชาย และครอบครัวของน้า น้าพักบ้านใหญ่ เราพักบ้านเล็กมีเตียงแยก 2เตียงค่ะ พอได้ที่พักและทานข้าวเที่ยงแล้ว เราก็เอาของไปเก็บที่ห้องแล้วออกมาเลย เพื่อไปเที่ยวกันต่อ ตอนเย็นกลับมาก็แวะไปคุยกันที่ห้องน้า จนดึกประมาณเกือบเที่ยงคืนค่ะ จึงกลับมาที่ห้อง ลักษณะบ้าน จะเป็นหลังคามุงแบบหน้าจั่ว มุงลงมาถึงพื้น ตกแต่งดูดีค่ะ แต่ที่เราพักมีบ้านเราแค่หลังเดียวที่มีคนพัก บ้านลักษณะนี้มี 5 หลังติดกันค่ะ ด้านหลังเป็นต้นไผ่ต้นใหญ่มากลงไปถึงรำน้ำ เราเข้าห้องอาบน้ำ น้องชายก็เปิดทีวีดูอยู่ค่ะ ก็อาบไปจนเสร็จเลยจะเข้านอน เตียงเราจะยกพื้นปูนขึ้นมาค่ะ แล้วก็เป็นที่นอนวาง แยกกันโดยที่ผ้าห่มจะถูยัดใต้ที่นอนเหมือนถุงนอนเต้นค่ะ เราดึงผ้าห่มออกเพื่อจะเอาตัวเข้านอน แต่มันอับมาก เหม็นเปรี้ยวๆค่ะ คือแบบนั่งบนกลับน้องชายว่าผ้าห่มไม่เคยเจอแดดเลยรึไง โดยไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ ก่อนนอนก็ไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางตามปกติค่ะ แต่เราก็สังเกตเห็นว่าที่หัวเตียงมีหนังสวดมนต์วางว่าเป็นสิบเล่มเลยค่ะ ทั้งของพระเยซู ของอิสลามทั้งไทยและภาษาอาหรับ […]Read More
เรื่องมีอยูว่าเรากับแฟนได้เช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่แถวย่านอนุเสาวรีย์ เราเช่าอยู่ในราคา 20,000 บาท บ้านหลังนี้มีรูปแบบบ้านที่แปลกไม่เหมือนที่อื่นคือ ถ้าตรงกลางบ้านโล่งขึ้นไปถึงหลังคา บ้านหลัง นี้มี4ชั้นรวมชั้นดาดฟ้า บนดาดฟ้านี้มีศาลอยู่ด้วยค่ะ เราพอทราบมาว่าก่อนหน้าที่เราจะมาเช่า บ้านหลังนี้ว่างอยู่เกือบ2ปี หลังจากที่เราทั้งครอบครัวย้ายเข้ามานั้นเป็นช่วงที่ตรงกับฟุตบอลโลกพอดี คืนที่2หลังจากย้ายเข้าบ้านทุกคนหลับหมดแล้วเหลือแต่น้องชายนั่งดูบอลอยู่จนกระทั่งบอลจบ ช่วงเวลาประมาณ ตี2ครึ่ง น้องก็ได้เดินจากชั้น2ซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นกลับเข้ามานอนที่ห้องของตัวเอง ระหว่างทางที่เดินผ่านที่พักบันไดน้องชายไม่ได้เปิดไฟทางเดิน แต่มีไฟสลัวตรงหน้าต่าง น้องชายได้ยินเสียงผู้หญิง2คนคุยกันอยู่ตรงหัวบันได ประมาณว่า”ผู้ชายคนนี้เป็นใครเนี่ยเข้ามาในบ้านเราได้ยังไง” แต่น้องเราก็คิดว่ามันหูฝาด เพราะน้องไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องแบบนี้ก็เข้านอนตามปรกติจนหลับไปได้สักพักน้องชายเรารู้สึก มีคนมาดึงขาลากลงมาจากที่นอน น้องเรากลัวมากรีบมาเคาะห้องขอนอนกับแม่หลังจากคืนนั้นน้องเรามันย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมไม่มานอนที่นี่อีกเลย มาพูดถึงห้องนอนเราบ้างนะ เพื่อนๆลองนึกภาพห้องน้ำที่มีชักโครกที่เวลาเงยหน้าขึ้นไปจะมีหน้าต่างกระจกสามารถมองขึ้นไปแล้วเจอกับศาลตรงชั้นดาดฟ้าพอดี คิดเอาเถอะค่ะ เราไม่กล้าทำทุกข์หนักตอนกลางคืนกันเลยทีเดียว บอกได้ว่าน่ากลัว เราไม่สามารถข่มตาหลับในห้องนอนเวลาเรานอนคนเดียวได้แม้แต่ครั้งเดียว มีความรู้สึกเหมือนมีคนมองตลอดเวลาเพื่อนที่มานอนที่บ้านเหมือนกันโดนผีอำทุกราย ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราโดนทุกวัน จนเราชินมาก แต่บางครั้งก้อยังกลัวนะ ตลอดเวลาเกือบสองปีเจอแบบนี้ตลอดเหมือนมีคนอยู่ด้วยทั้งๆๆที่เราอยู่คนเดียว หมาเราชอบเห่ามุมของห้องนอน (มุมนั้นมุมเดียวจริงๆๆห้องนั้นห้องเดียวด้วยตลอดระยะเวลาเกือบ2ปีมันเห่าทุกวันและต้องเป็นเฉพาะตอนเราอยู่คนเดียว)จนก่อนที่เราจะย้ายออก เรายืนล้างจานอยู่ในครัวซึ่งน่ากลัวมากด้านหลังติดกับห้องครัวเป็นห้องเก็บของที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปคนเดียวนอกจากแฟนเรา ขณะที่เรายืนล้างจานอยู่เราได้ยินเสียงมีใครเรียกชื่อเราอยู่ตรงข้างหู เราตกใจมากสะดุ้งสุดๆเพราะมันอยู่ข้างหูเราเองสามารถรู้สึกได้แต่เราไม่ได้ขานรับนะจากนั้นมาเราก้อย้ายออก จากนั้นพอเราย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่เรีบยร้อยแฟนเราก็เล่าให้เราฟังว่า เค้าเป็นคนไม่เคยเชื่อเรื่องผีเพราะเค้าเป็นต่างชาติแต่เค้ากลับบอกเราว่าตลอดเวลาที่เค้าอยู่บ้านหลังนั้นเค้ารู้สึกเหมือนมีคนอื่นอยู่ด้วยนอกเหนือจากเราเวลาที่เค้าอยู่ในบ้านรู้สึกถึงสายตาจ้องมองตลอด เค้าบอกว่าไม่อยากเล่าให้เรากลัวหรือไม่สบายใจขอยืนยันว่านี่เป็นเรื่องจริงจากที่เจอหลอนนิดๆๆกันบ้างไหมคะ ติดตามเรื่องผีผี RedMOONRead More
เรื่องมีอยู่ว่า ย้อนกลับไป เมื่อ ปี 2548 เป็นปีที่ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เข้าปี 1 พอดี มีผม พี่สาวและเพื่อนของพี่สาวเป็นผู้หญิง ไปกันทั้งหมด 3 คนครับ ก็ชวนกันไปเที่ยวเขาใหญ่ และเข้าพักที่บ้านพักหลังนี้ ก่อนอื่นขออธิบายลักษณะบ้านพักนะครับ เป็นบ้านพักสไตล์รีสอร์ท 3 หลังเรียงกันครับ หลังที่ผมเข้าพักเป็นหลังตรงกลาง สภาพสวยครับ มีสนามหญ้าหน้าบ้าน มองเข้าไปจะเห็นตัวบ้าน เป็นทรงหลังคาจั่ว มีสองชั้นครับ ชั้นล่างมองเข้าไป ซ้ายมือจะเป็นห้องรับแขก ถัดจากห้องรับแขก จะมีเสาไม้อยู่กลางบ้านเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ถัดจาบันได จะเป็นห้องนอนครับ ส่วนขวามือจากทางเข้าจะที่รับประทานอาหารและห้องครัว ถัดเข้าไปจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งถ้าเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปจะต้องเดินลงบันได ลงไปใต้ดินครึ่งชั้นครับ จะมีอ่างล้างหน้าตั้งอยู่ ซึ่งปกติอ่างล้างหน้าจะต้องมีกระจกเงา แต่ที่นี่ ไม่มีกระจกครับ เป็นช่องสี่เหลี่ยมผลุบเข้าไปที่ผนังและมีแจกันดอกไม้ปลอมตั้งอยู่ 1 อันครับ ส่วนชั้นที่ 2 ขึ้นบันไดตรงกลางบ้านขึ้นไป ก็มีห้องน้ำอยู่ตรงหน้าบันได ห้องนอน แยก ซ้ายขวา ครับ แน่นอนครับ เหตุการณ์ที่ผมประสบเจอกับพี่สาว เกิดขึ้นที่บริเวณชั้นล่างของบ้านพักหลังนี้ครับ […]Read More
สวัสดีครับ ผมจะมาเล่าเรื่องแปลกๆ ที่ผมประสบพบเจอเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยปกติ ผมจะวิ่งขึ้น ทางเหนือ 2ครั้งต่อปี เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ได้ย้าย ตั้งรักรากปักฐานที่นั่น และ ครอบครัวผมมีบ้านที่นั่นด้วย(ซื้อไว้เวลาขึ้นไปเที่ยว ทีแรกก็กะซื้อให้พ่อไว้อยู่ ช่วงอายุเยอะๆ) ด้วยที่ผมทำงานประจำ หยุดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ เวลาขึ้นจะขึ้นไปช่วงวันหยุดยาวหรือไม่ก็ช่วงเทศกาล ถ้าคนที่ขึ้นเหนือบ่อยๆ น่าจะทราบดีว่าเส้นทางหลักที่ขึ้นจะเป็นสายเอเชีย อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ไปเรื่อยจนถึง นครสวรรค์ แต่จะมีอีกสายนึง ที่ใช้สำหรับเลี่ยงช่วงเทศกาล รถติด นั่นคือเส้น สุพรรณฯ ชัยนาทแล้วไปตัด สายเอเชีย ที่อำเภอมโนรมย์ พ่อผม(ปัจจุบันเสียแล้ว) เวลาจะขึ้นทางเหนือเค้าสอนว่าให้ออกกลางคืนประมาณ เที่ยงคืน ตีหนึ่ง เพราะว่า สมัยก่อน จะยังไม่มีกล้องจับความเร็ว ตำรวจทางหลวงจะใช้รถทางหลวงจอดแอบถ่ายรูป แล้วว.ไปด้านหน้า อีกเหตุผลนึงคือ ทำเวลาได้เนื่องจาก รถน้อยมากแทบไม่มี เมื่อปี 2553 ช่วงปลายๆปี ผมมีโอกาสขึ้นไปที่ภาคเหนือ ปกติจะไปกัน 4-6 คน […]Read More
ผีเร่ร่อนตามผีพี่สาวมาถึงบ้านเพราะพ่อจุดธูปเรียกมากินข้าว
ถ้าเรื่องผีเราว่าของเราน่ากลัวสุด เพราะนอกจากเจอผีในครอบครัวตัวเองแล้วยังเจอผีเร่ร่อนที่พ่อเรียกเข้ามา เรื่องคือพี่เราโดนรถเมล์เหยียบหัวแถวๆสีแยกตรงจรัญ เสียชีวิตคาที่ (เรื่องจริงเคยออกข่าว) และด้วยที่พ่อทำใจไม่ได้ปักธูปเรียกให้กินข้าวเช้าเย็นเลยจ้ะ พี่ที่เสียเป็นผู้หญิง และเป็นลูกติดพ่อ เราเป็นลูกติดแม่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ซึ่งตอนที่พี่เขาเสียใหม่ๆ พ่อเราประสาทกินเลย เป็นบ้าไปช่วงนึง ทุกวันเขาจะเรียกให้พี่เขากินข้าว โดยการเอาข้าวปักธูปไว้และเรียกกิน ทั้งเช้าเย็นไม่ว่าจะไปกินข้าวข้างนอกก็ทำ พ่อทำใจไม่ได้ถึงขนาดเก็บทุกอย่างที่เป็นของพี่เขา ทุกอย่างรวมถึงเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดในวันที่พี่เขาโดนชนก็เก็บไว้ในห้องนอนพี่เขา และด้วยที่เราไม่สนิทไม่เคยเจอ (ตอนนั้นอยู่คนละบ้านกับพ่อ) พ่อมานอนที่บ้านเรา แต่มีช่วงนึงแม่ต้องไปนอนบ้านพ่อช่วยงานศพ เราเลยอยู่คนเดียว และเราก็ไม่ได้กลัวหรือไม่ได้คิดอะไร ช่วงนั้นชอบเล่นเกมเดอะซิมส์มาก ช่วงปิดเทอมเราก็เล่นยันตี2-3ทุกวัน แต่จะแปลกใจอย่างคือชอบรู้สึกว่ามีคนอยู่ในห้องด้วย แต่ก็คิดว่าเป็นกุมารในห้องเราหรือเปล่าก็เล่นเกมไป แม่ก็ไม่ได้กลับบ้านเลย จนมาวันพระ วันนั้นจำได้ดีว่าเลิกเล่นเกมตอนตี2ครึ่ง วันนั้นจำได้ว่านอนไม่หลับและปิดไฟในห้องหมดแล้วทีนี้เรามองไปที่ปลายเท้า ก็เห็นคนอ้วนรูปร่างใหญ่มาก เราก็คิดว่าเป็นผ้าขนหนูแขวนกับตู้เสื้อผ้าไม่ก็เป็นพัดลม เพราะตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเท้า แต่เราหันมาก็เห็นว่าข้างๆเงานั้นคือพัดลม เราก็แล้วเงาไรว้ะ เลยลุกขึ้นนั่งมาดู ตอนนั้นไม่ได้กลัวเลยเพราะไม่คิดว่าเป็นผี พอเราลุกจากหมอนแล้วยื่นหน้าไป ตอนนั้นแบบภาพไม่นิ่งขยับตัวได้ปกติ ไม่เหมือนคนที่เจอผีแล้วขยับตัวไม่ได้ ขยับได้ปกติเลย เงานั้นผีแน่นอน เขายืนมอง ไม่ยิ้มหน้านิ่งๆ ขยับเล็กน้อย เรานี่เชี้ย ไม่หายว้ะงั้นล้มลงนอนหลับตาและลืมตาใหม่อีกที พอหลับตาแล้วลืมตาใหม่ มาดู สรุป เฮ้ยไม่หาย ไม่หาย คือมันไม่หาย และเขาค่อยขยับมาค่อยๆขยับมาข้างๆ […]Read More
ไอ้หนู!! ข้ากินข้างในแม่เอ็งไม่เหลือแล้ว…คอนโดย่านปากเกร็ด
ครอบครัวของผมนั้นมีพี่น้องเก้าคน ผมเป็นคนที่เก้า ตัวผมเองนั้นก็มีเซ้นส์เรื่องผีนี้พอสมควรตั้งแต่เด็กมาแล้วและก็เจออะไรมาเยอะ แม่ผมก็แก่แล้ว บรรดาพี่น้องก็จะคอยหมุนเวียนกันดูแลแก พี่สาวผมคนหนึ่งแกซื้อคอนโดอยู่แถวปากเกร็ดก็เอาแม่ไป ไปอยู่ชั้นสี่ แต่ที่คอนโดนั้นไม่มีลิฟท์ ในการขึ้นลงมันลำบาก ทีนี้เหตุการณ์มันผิดปกติตอนที่แม่ไปอยู่กับพี่สาวคนนี้นี่แหละ แม่เขารู้สึกไม่ค่อยดี รู้สึกว่าป่วยแล้วกลางค่ำกลางคืนก็ไม่ค่อยนอน แล้วแม่ก็โทรมาปรึกษาผม บอกว่าทำยังไงดี แม่รู้สึกจะไม่ค่อยสบาย รู้สึกร้อนๆ รุ่มๆ ในตัว บางทีอาบน้ำแล้ว แกก็บอกว่ามันรู้สึกร้อนในตัว ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทีนี้ผมก็เลยไปหาแกที่คอนโดของพี่สาว พอตอนไปดูนั้นก่อนที่ผมจะเข้าห้อง มันรู้สึกประหลาด ขนผมลุกขึ้นมาและผมเป็นคนที่มีเซ้นส์เรื่องนี้ ก็คิดว่ามันไม่ค่อยดีนะ มีอะไรมาหรือเปล่าเนี่ย ผมก็บอกกับพี่สาวอย่างนั้นก่อนจะเข้าห้องไป พอเข้าไปเห็นแม่ก็เห็นว่า เออตาแกขวางๆ ผมบอกพี่สาวเลยว่า นี่ผิดปกตินะ แม่ดูไม่เหมือนเดิม ก็รู้อ่ะนะคนเป็นแม่ลูกกันน่ะ พี่ผมก็บอกว่า ยังไงตอนนี้เอาแม่ไปบ้านพี่สาวอีกคนหนึ่งดีกว่า ไปบ้านพี่สาวใหญ่เลย มันสบายหน่อยไม่ต้องเดินขึ้นเดินลง มาอยู่อย่างนี้ก็เหนื่อยทั้งแม่ทั้งพี่ ก็ตัดสินใจว่าจะเอาแม่ไปอีกบ้านหนึ่ง ทีนี้ผมก็เข้าไปพยุงตัวแก ก็เอามือสอดรักแร้ของแม่แล้วก็ค่อยๆ พยุงพากันเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วก็พากันไปขึ้นรถ พอผมเข้าไปนั่งใกล้แก แกก็บอกว่า “เฮ้ย เอ็งลงไปที่กระบะหลังได้มั้ย รู้สึกไม่ค่อยดี “ด้วยน้ำเสียงแข็งๆ พูดเหมือนไม่ใช่แม่เรา แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรก็เดินไปที่กระบะหลัง ระหว่างนั้นก็ได้กลิ่นที่มือของตัวเองที่เพิ่งคอยพยุงตัวแม่มา เป็นกลิ่นเหม็นเน่า เหม็นยังกับเราไปจับซากสัตว์ ซากไก่ […]Read More
ปกติเป็นคนทำงานโรงแรม เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วครับ ตอนนั้นได้ย้ายออกจาก กทม ไปทำงานที่โรงแรมสวยมากๆแห่งนึง ที่ภาคใต้ ขอไม่บอกจังหวัดนะครับ ตำแหน่งที่ทำจะเป็นตำแหน่งที่ต้องใกล้ชิดกับแขก ดูแลแขกโดยตรง บางที่เรียก butler บางที่เรียก villa host หรือ resort host แล้วแต่โรงแรม ปกติแขกที่พักที่นี่จะได้ villa host ทุกวิลล่า แขกที่เข้าพักแต่ละวัน จะถูกกำหนดโฮสขึ้นมาแล้วว่าใครเป็นคนดูแล วันนั้นแขกที่ผมดูแลเป็นแขกมาฮันนิมูน จะได้ไวน์ฟรี และโฮสต้องเซ็ตให้แขกก่อนมารีสอร์ทเป็นแนวออกป่าๆ ต้นไม้เยอะ ตัวรีสอร์ทอยู่ใกล้ป่ายางด้วยครับ เรารู้แล้วว่าแขกจะมาเช็คอินหลังจากเราเลิกงาน ซึ่งปกติเลิกสี่ทุ่ม เราเลยตั้งใจจะเอาไวน์มาเซ็ทในตัววิลล่าก่อนเลิกงงาน ตอนนั้นสามทุ่มก็ตั้งใจเอาไปเซ็ทไม่ได้คิดหรือกลัวอะไร โซนวิลล่าของแขกที่จะมา แบ่งเป็นสองโซน โซนติดกับป่า กับโซนที่อยู่ช่วงกลางของรีสอร์ท สองโซนนี้ถูกกั้นด้วยโพงหญ้าเตี้ยๆ และข้ามไปอีกฝั่งด้วยสะพานแขวน เราตัดสินใจไม่ขับรถบักกิ้ไปอีกโซนที่ติดกับป่า วิลล่าอยู่โซนโน้น เพราะทางมืดและเล็ก ตอนนั้นขับยังไม่คล่องมากครับ ไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนด้วย เลยขับไปจอดตรงสะพานแขวนแล้วเดินข้ามไปฝั่งนู้น มือข้างนึงไสลด์จอมือถือ แขนข้างนึงโอบถังไวน์ไว้ เลยเดินช้าๆ เพราะกลัวของตก แต่พอเดินบนสะพาน รู้สึกว่าสะพานมันแกว่งแรงมาก ทั้งๆที่เราเดินช้า ความรู้สึกตอนนี้ไม่มีคำว่าผี หรือกลัวอะไรเลยจริงๆ เลยหันหลังกลับไปมอง […]Read More
ปกติผมเป็นคนมีเซ้นส์ชอบเห็นอะไรที่ใครเขาไม่เห็นกัน แต่เรื่องนี้ผมยอมรับว่าตกใจสุดๆเลยเมื่อเจอเค้าคนนั้น!!!…มีอยู่วันนึ่งผมเลิกงานกลับบ้านมา เป็นวันศุกร์พอดี พรุ่งนี้ก็วันหยุดคุยกับแฟนว่าจะไปเที่ยวแบบธรรมชาติสักคืน สูดอากาศดีๆเข้าปอดสักหน่อย เลยลงมติว่าจะไปเที่ยวเขาใหญ่กันหลังจากนั้น ก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ว่าจะกลับสักเช้าวันอาทิตย์ แต่ผมติดภาระกิจที่สำคัญก็คือต้องไปส่งของ (มะม่วง บ้านผมทำสวนมะม่วงด้วยครับ ) ให้เสร็จก่อนถึงจะไปได้ …จนค่ำประมาณ 4 ทุ่มได้ ผมก็กลับมาบ้าน ก็ถามแฟนอีกครั้งว่าจะไปเลยหรือค่อยไปพรุ่งนี้เช้า แฟนผมบอกไปเลยงั้นก็ไปสิครับ รออะไร ระหว่างที่ขับรถไปเรื่อยๆคุยกันไปเรื่อยๆ มาถึงทางที่จะไปเขาใหญ่ ไปโดยไม่ได้เตรียมว่าจะพักที่ไหน รีสอร์ท อะไร คือว่ากะไปหาเอาข้างหน้าเลย!!! ก็เลยแว๊ะปั๊ม ปตท. ทำธุระก่อนเข้าไปในเขาใหญ่ เพราะว่าจะมีอยู่ปั๊มเดียวด้วยเข้าไปก็ไม่มีปั๊มแล้ว พอขับรถไปเรื่อยเส้นทางเริ่มมึดมาก ขณะนั้นก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆได้แล้ว ขับไปเรื่อยๆ ก็ยังหาโรงแรม รีสอร์ท ที่ถูกใจไม่ได้เลย ก็ขับเข้าไปเรื่อยๆ จำได้ว่าเลี้ยวซ้ายครั้งเด่ว ทางยิ่งมืดเข้าไปใหญ่ รู้สึกว่าผมจะเข้าไปในไร่ เค้าปลูกข้าวโพดกันเต็ม 2 ข้างทางเลย ต้นไม้เต็มไปหมดมองอะไรแทบจะไม่เห็นเลย ทางก็เป็นทางลูกรังอีกต่างหาก ก็เลยคุยกับแฟนว่า ต้องออกและหล่ะ ตัดสินใจกลับรถออก เพื่อกลับทางเดิมผมก็ได้ขับไปเรื่อยๆเลี้ยวตามทางที่เคยผ่านมา แต่รู้สึกเหมือนยิ่งเข้าไปลึกกว่าเดิม หนักกว่าเดิมอีกมืดกว่าต้นไม้หนากว่าเดิมอีก คุยกับแฟนว่าสงสัยจะหลงแล้วเราก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อ เปิด […]Read More
เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเมื่อเธอได้ไปเช่าคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งคิดว่ามันดีและน่าอยู่แต่แล้วความเป็นจริงกับไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดเรื่องราวของเธอจะเป็นยังไงล่ะเรามาอ่านกันเลยดีกว่าครับ เราชื่อแพะต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่โดนผีอํามาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจะมีอาการพรุ่งหลักครึ่งตึกร่างกายแข็งแข็งห้องน้ำโมในใจยังไม่ได้เลยจะทำได้เพียงแค่กรอกตาไปมาเท่านั้น เมื่อ 30 ปีก่อนครั้งที่เรายังเป็นเด็กเราไปนอนที่บ้านย่าก็เคยเห็นผีเด็กโผล่หัวห้อยออกมาจากผนังเนื้อหัวเตียงและเคยได้ยินเสียงคนร้องไห้ตอนกลางคืนมาจากที่ไกลๆ เมื่อตอนที่อยู่บ้านทั้งยังเคยเห็นเงาดำแวะไปแวะมาที่หางตา เมื่อตอนไปเที่ยวที่รีสอร์ทต่างจังหวัดในช่วง 1 เดือนเศษๆที่ผ่านมานี้ตัวเองเป็นคนที่มีแฟนแล้วโดนผีอำทั้งยังเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น เกิดขึ้นกับตัวเองบ่อยครั้งทำให้เราเชื่อว่าในโลกนี้วิญญาณมีอยู่จริง ถึงแม้ตอนนี้เราไม่ได้อยู่เมืองไทยมา 10 กว่าปีแล้วแต่เราก็ยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยที่เรายังคงอยู่เมืองไทยได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อนตอนนั้นเราย้ายที่ทำงานจากถนนเจริญกรุงไปถนนพัฒนาการก็เลยต้องย้ายที่พักอาศัยด้วยเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางและประหยัดค่าทางด่วน พี่คนหนึ่งที่บริษัทใหม่เขาได้แนะนำเราให้ไปพักที่คอนโดแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากที่ทำงานมากนักใช้เวลาแค่ 10 นาทีในการขับรถซึ่งตัวที่เขาก็พักอยู่ที่นี่เช่นกันแล้วก็ได้นัดกับน้องสาวที่เรียนอยู่ม. กรุงเทพมาดูที่พักด้วยกัน ถนนทางเข้าคอนโดมันจะเป็นซอยเล็กๆที่ติดกับถนนพัฒนาการ ถ้ามองไม่ดีก็มีโอกาสที่จะขับเลยไปได้ง่ายๆแล้วต้องไปกลับรถมาใหม่บริเวณวัดรอบคอนโดจะมีบ้านอยู่ 2 หลังซึ่งมีเนื้อที่ค่อนข้างเยอะและเป็นบ้านหลังใหญ่ติดกันซอยนี้ก็ไม่ลึกมากแต่เป็นซอยตันซึ่งจะมีโรงงานร้างอยู่ที่ท้ายซอยมันอยู่ติดกับคอนโดเลย รอบๆคอนโดก็จะเป็นผู้ว่าง่ายและกว้างมากไม่มีบ้านคนห้องพักของที่นี่จะเป็นลักษณะห้องสตูดิโอมีอยู่ 2 แบบคือแบบตกแต่งปรับปรุงใหม่เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นไม้สีเข้มทั้งหมดพื้นเป็นกระเบื้องหรือแบบเก่าที่ยังไม่ถูกปรับปรุงจะมีเฟอร์นิเจอร์เก่าๆพื้นพรมเก่าๆไปก็ดูสะอาดดีมากที่นี่จะมีบริการทำความสะอาดมีผ้าปูเตียงปลอกหมอนมีบริการส่งอาหารจากร้านอาหารของคอนโด น้องสาวของเราบอกว่าชอบห้องแบบใหม่มากกว่าแต่ตัวเขาเองรู้สึกว่าห้องแบบใหม่มันมีความยินดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็อยากได้ห้องใหม่เหมือนกันเลยตกลงทำสัญญาเช่า 1 ปีห้องที่ว่างให้เราสองคนได้ชาวเป็นห้องหมายเลข 606 อยู่ชั้น 6 ซึ่งแพทย์ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับเลข 6 2 ตัว ตามธรรมเนียมฝรั่งมันคือเลขของซาตานคิดว่าสำหรับคนไทยอย่างเราก็คงไม่มีผลอะไร อีก 1 อาทิตย์ต่อมาก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่มีน้องสาวมาช่วยขนของจัดของทั้งวันได้คืนนั้นน้องไม่ได้มานอนค้างด้วย เขาถึงตอนค่ำเราก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแม่สั่งไรให้ไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนเข้าพักเราก็เลยรีบลงมาที่ทางเข้าคอนโดเพื่อจะไปไหว้เจ้าที่ที่สานปรากฏว่าทางเจ้าของได้มีการรื้อถอนศาลอ่อเราเห็นสารขนาดใหญ่ 2 หลักที่ได้ถูกย้ายออกจากตำแหน่งหนึ่งวางแบบระเกะระกะเอียงไปเอียงมาแต่ว่ายังไม่ได้มีการทำพิธียังทำพื้นที่ใหม่ไม่เสร็จแล้วเห็นดินที่ถูกขุดออกมากองเต็มไปหมดเหมือนเขากำลังเตรียมจะเทคอนกรีตอะไรประมาณนั้น ทำให้เราไม่รู้ว่าจะไหว้เจ้าที่ยังไงและถูกก็ไม่มีดอกไม้ก็ไม่มีเลยตัดสินใจยืนพนมมือแล้วก็บอกกล่าวกับเจ้าที่ว่าจะย้ายเข้ามาอยู่โดยเรานึกในใจไม่ได้พูดออกเสียงไป คืนนั้นไม่รู้เป็นอะไรเรารู้สึกไม่ดีกับห้องเลยมันรู้สึกเย็นๆวงรีและเงียบมากเลยเปิดทีวีให้เสียงดังเข้าไว สักพักเราก็ไปยืนที่นอกระเบียงเพื่อรับรองก็มองเห็นแต่ทุ่งกว้างในความมือและป้ายไฟนีออนของโรงพยาบาล แล้วรู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวแต่ด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียจากการขนของย้ายห้อง เราก็เลยเข้านอนปิดไฟแล้วปิดทีวีตามปกติเราเป็นคนไม่ชอบเสียงดังชอบความมือและความเงียบสงบเวลานอนมากกว่าขอนอนไปได้สักพักเราก็เริ่มรู้สึกว่าตัวชาเหมือนกับโดนผีอำ ที่ดูได้เพราะเราโดนอยู่บ่อยๆ ตอนนั้นเราพยายามเหลือกตาไปมาก็พอขยับได้แต่เมื่อพยายามขยับเรียนพยายามที่จะท่องนะโมสวดมนต์กระทำไม่ได้จนสุดท้ายเราก็แพ้และโดนเอาร่างกายของเรามันแข็งไปหมด ในความมืดในสายตาเราก็มองไปที่ประตูห้องซึ่งอยู่เยื้องกับปลายเตียงไปทางซ้ายมือมันทำให้เราเห็นว่าร่างดำหนึ่งสูงเท่าเพดานห้อง งานหนักไม่มีหน้ายาวแขนยาวขายาวพอมารู้ตัวอีกร่างดำนั้นก็ได้มานั่งข้างตัวเราบนเตียงแล้ว เราเห็นมือดำที่มีขนาดใหญ่กว่ามันใหญ่ขนาดที่จะสามารถบีบรัดตัวเราทั้งตัวได้เลยมือนั้นได้รอบแขนของเราทั้งสองข้างมาอยู่ที่กลางลำตัวเราพยายามดิ้นสุดชีวิตกะว่าจะสู้ตายแล้วแบบนี้ก็ดิ้นไปดิ้นมาได้สักพักจนสุดท้ายก็หลุดออกมาได้ร่างดำนั้นก็หายไปเสียดื้อๆ […]Read More
เรื่องเล่าปู่มี วิญญาณเฮี้ยนปีนปล่องเมรุ สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกของผม (แต่ผมยืมไอดีพันทิปมาจากเพื่อน) ผมอยากมาถ่ายทอดประสบการณ์ ”จริง” ที่เคยสัมผัสมาด้วยตัวเอง จากญาติพี่น้อง และคนรู้จัก เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลๆหนึ่งชื่อว่า “ปู่มี” เรื่องเกี่ยวกับปู่มีบางเรื่องออกจะแปลกๆถึงกับไม่น่าเชื่ออยู่บ้าง เพราะแกเป็นสัปเหร่อนั่นเอง อยากจะให้ทุกท่านรับฟังด้วยวิจารณญาณ หากท่านคิดว่าเรื่องที่เล่ามาไม่น่าเชื่อถือก็ขอให้รับฟังเอาเฉพาะความบันเทิงก็เพียงพอ และเรื่องของปู่มีที่ว่านี้มีอยู่มาก แต่จะนำมาเล่าเท่าที่จำได้และสมควรเล่าเพื่อไม่ให้กระทบกับบุคคลและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง เรื่องอาจไม่ติดต่อกันเพราะผมพยายามนำเรื่องที่จำได้มาเล่าให้ฟังก่อนครับ เหตุผลที่นำเรื่องของปู่มีมาเล่า ก็เพราะผมทราบว่าแกเสียชีวิตไปแล้วเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา และแกก็เป็นผู้มีบุญคุณกับผมอยู่พอสมควร และสถานที่ที่จะเล่านี้เป็นวัดแห่งหนึ่งอยู่ใน จ.นครราชสีมา (ขออนุญาตไม่เปิดเผยข้อมูล) ย้อนไปเมื่อ15ปีที่แล้ว ผมอายุประมาณ 10 กว่าปี แต่ก็พอจะจำความอะไรๆได้บ้างแล้ว ผมอาศัยอยู่กับยายที่โคราช เพราะพ่อและแม่นำมาฝากไว้ทั้งสองท่านเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ยายเป็นคนชอบเข้าวัดทำบุญ ตัวผมเองเวลาว่างหรือวันหยุดไม่ได้เรียนหนังสือผมก็มักจะตามยายเข้าไปช่วยงานหรือเล่นวัดอยู่บ่อยๆ สำหรับปู่มีเจ้าของเรื่องนี้ แกเป็นสัปเหร่ออยู่ที่วัดมานานมาก และในวัดนั้นมีพระอยู่รูปหนึ่งชื่อหลวงตาสีท่านเป็นพระพี่ชายของปู่มีและเป็นพระลูกวัดอยู่ที่นั่น แต่พระ เณร คนวัด เด็กวัด จนถึงเจ้าอาวาสต่างก็เคารพหลวงตาสีและปู่มีทุกคนเพราะทั้งสองท่านอยู่ที่วัดมานาน เรื่องแปลกแรกที่น่าสงสัยก็คือ ผมเคยถามยายว่า หลวงตาสีทำไมถึงเป็นพี่ชายของปู่มี เพราะหลวงตาศีรษะท่านยังไม่หงอก แต่คิ้วขาว ท่าทางยังหนุ่ม ต่างจากปู่มี ผมสั้นขาวโพลน คิ้วหงอก หลังค่อมนิดๆ อายุน่าจะประมาณ 70 ปีได้ ยังแข็งแรง […]Read More