เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณพลอย และคุณธี ที่เป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลาย จนตอนนี้เรียนมหาลัยปี 4 แล้ว เหตุเกิดที่ อ. อรัญประเทศ ทั้งคู่เล่าว่า.. วันนึงขณะที่ธีขับรถมาส่งพลอยที่บ้าน หลังเลิกเรียน ก่อนพลอยจะลงรถ แม่พลอยก็วิ่งหอบข้าวของเต็มมือ พร้อมจูงน้องภู น้องชายของพลอยมาด้วย แม่พลอยบอกว่า ‘ป้านาเพื่อนแม่ป่วย แต่แม่ไม่ว่างเลย งานยุ่งมาก ฝากแกไปเยี่ยมแทนหน่อยนะ เอาน้องภูไปด้วย พวกป้าๆ บ่นคิดถึงจะแย่..’ ยังไม่ทันตบปากรับคำ แม่ก็พาน้องภู ขึ้นไปนั่งหลังฝั่งคนขับ พร้อมจัดของฝากใส่ท้ายรถให้เรียบร้อย แล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไป พลอยกับธีมองหน้ากัน แล้วหันมามองน้องภูอย่างเซ็งๆ เพราะทางไปบ้านป้านานั้นไม่ไกล แต่เปลี่ยวและคดเคี้ยวมาก น้องภูอายุแค่ 3 ขวบพูดยังไม่ชัดเท่าไหร่ เป็นเด็กช่างพูด ช่างถาม จึงคุยถามนู่นนี่ไปตลอดทาง จนธีต้องบอกให้เงียบ เพราะต้องใช้สมาธิในการขับรถ เพราะตอนนั้นถนนเริ่มมืดแล้ว ไฟส่องทางก็มีบ้าง ไม่มีบ้าง.. ธีขับรถไปตามปกติ จนมาถึงทางสามแยก ที่มีป้าย ‘โปรดระวัง เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง’ บ้านป้านาต้องเลี้ยวขวา ธีจึงมองรถทางซ้าย และตาเหลือบไปเห็นเครื่องเซ่น ที่อยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งเต็มไปหมด พลอย […]Read More
เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เรากับแฟนได้ไปเที่ยวเกาะล้านกัน แฟนได้ค้นหาที่พักจากเว็บไซต์หนึ่ง เราขอย่อชื่อที่พักว่า B นะคะ ที่นี่น่าอยู่ ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำด้วย ซึ่งห้องที่เราอยู่ อยู่ลึกสุดของที่พักเลย บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างผิดหวังไม่สมกับราคา เพราะห้องก็ไม่ได้สวยอะไรมาก วิวก็ไม่มี แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตั้งใจมาเที่ยวทะเล แค่มีห้องพักไว้อาบน้ำและนอนก็พอ เราก็ออกไปดำน้ำ ถ่ายรูป กันจนเหนื่อย พอตอนกลางคืนกลับมานอนด้วยความเพลีย เราก็ฝันค่ะ ฝันว่าแฟนปลุกเราเพราะเจอผี เราก็ลืมตาตื่นขึ้นมา (อันนี้ยังอยู่ในฝันนะคะ) เห็นหัวผู้หญิงอยู่บนเพดาน ย้ำนะคะ ว่าเห็นแค่หัว เพราะตัวไม่มี ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดแบบช้ำเลือดช้ำหนองอ่ะค่ะ ผมยาวสยาย น่ากลัวมาก แต่เค้าไม่ได้ทำอะไรเรา เค้าอยู่นิ่งๆ จ้องมองมาที่เรา ใบหน้าเค้านิ่ง ไม่ได้โกรธหรือยิ้มให้ เราก็สะดุ้งตื่นค่ะ เหงื่อแตกเต็มตัว เรารีบปลุกแฟนเลยค่ะ ทีแรกก็ยังไม่อยากเล่าให้แฟนฟัง เพราะกลัวแฟนจะคิดมาก เลยแค่บอกไปว่าเค้าไม่อยากนอนแล้ว ฝันร้าย ไม่กล้าหลับแล้ว กลัวฝันอีก เรากับแฟนเลยตกลงกันว่าจะนอนเล่นกันจนเช้า จำได้ว่านอนดูซิทคอมเรื่อง เป็นต่อ กัน เพื่อให้ลืมและหายคิดมาก เราออกไปนั่งเล่นระเบียงจนพระอาทิตย์ขึ้น เริ่มมีแสงสว่างบ้างแล้ว แฟนเลยบอกให้เราเล่าที่เราฝันให้เขาฟัง แฟนก็ปลอบใจว่าเราอาจจะคิดมากกันไปเอง […]Read More
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน ก่อนอื่นเลยผมต้องขอประทานอภัยหากแท็คห้องผิด เพราะผมไม่เคยใช้งานเลย แต่วันนี้อยากเล่าประสบการ์ณที่ได้เจอมาเมื่อไม่นานมานี้นะครับ ผมเป็นคนกรุงเทพนะครับแต่มีช่วงนึงที่ต้องเดินทางไปสระบุรีเพราะสอบนายสิบตำรวจได้แล้วศูนย์ฝึกอยู่ที่นั่น ศูนย์ฝึกภาค1 มีกำหนดการเดินทางทั้งหมด 2 วัน ผมเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพไปประมาณช่วง 4 ทุ่ม ถึงสระบุรีก็ดึกมากแล้วครับ วนรถหาโรงแรมกับพ่อ 2 คน หาอยู่นานมากครับ จนประมาณเที่ยงคืนกว่าครับ ไปเจอโรงแรมหนึ่ง อยู่ใกล้ๆทางรถไฟเลย น่าจะอยู่ในตัวเมืองสระบุรีเลยครับ ก็เลยตัดสินใจ เลือกโรงแรมนั้นกับพ่อ พ่อก็พาเดินเข้าไปที่ร็อบบี้ บรรยากาศในโรงแรมนั้นเงียบมากเลยครับ พนักงานหลอมแหลมมาก ไฟลานจอดรถก็มืดมากครับ ผมกับพ่อได้ห้อง 407 มาครับ มีพนักงานพาไปที่ห้องครับ แว๊บแรกที่เปิดประตูเข้าไป คือ พรมที่ปูพื้นกลิ่นอับมาก คิดในใจตอนนั้นคือโคตรกลัวครับ เพราะโรงแรมยิ้มน่ากลัว ขออธิบายลักษณะห้องก่อนนะครับ เปิดประตูเข้าไป จะเจอเตียงเดี่ยว2เตียง วางขวางนะครับ แล้วที่ปลายเตียงจะเป็นห้องน้ำครับ ผมเลือกเตียงในสุดเพราะใกล้น่าต่างครับ แล้วอีกอย่างจะได้ให้พ่อนอนกันให้ กลัวใครมาสะกิดกลางคืนเพราะผมฟังเขาเล่ามาเยอะ ก็นอนเล่น wifi กันไปสักพักครับ สักพักพ่อผมเอ่ยปากมาเลยครับ เองมานอนข้างนอกนี่มา พ่อหนาว แอร์เจ้ากำทะลึ่งมาลงตรงเตียงพ่อพอดี ปรับอุณหภูมิก็ไม่ได้ ผมก็เลยจำใจต้องไปนอนเตียงนอก เวลานั้น ก็เกือบตี […]Read More
วันนั้นเป็นวันพฤหัสบดี วันพระหรือไม่ผมไม่รู้ ผมนับถือศาสนาคริสต์ เวลานั้นประมาณบ่ายโมง ผมนั่งเล่นเฟสบุ๊คอยู่ แล้วก็เลื่อนมาเจอเพจ อันซีนไทยแลนด์ เห็นน้ำตกสวยงามมากน่าไปสุดๆ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ผมจึงคุยกับแฟน และตกลงกับแฟนที่จะไปเที่ยวกาญจนบุรีกันสองคน โดยขี่มอเตอร์ไซค์ไป โดยส่วนตัวผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวขึ้นเขาเลาะหาดอยู่แล้ว มันได้บรรยากาศกว่าขับรถไปเป็นไหนๆ ผมและแฟนใช้เวลาเก็บเสื้อผ้าไม่นานก็ออกเดินทาง ออกเดินทางประมาณบ่ายสอง ใช้เวลาเดินทางจาก บางนาตราด ไปถึงกาญจนบุรี ประมาณ สองชั่วโมงเศษ แวะเที่ยวในตัวเมืองตามจุดหลักๆ ที่คนส่วนมากจะไปกันไม่ว่าจะเป็น สะพาน สถานีรถไป จนไป พระอาทิตย์ตก ที่ สุสานทหารสัมพันธมิตร เมื่อเห็นว่าเย็นแล้วจึงคุยกับแฟน เพื่อออกเดินทางต่อ เพราะยังไม่มีที่พักกันเลย ปกติก็วอร์คอินกันอยู่แล้วครับ จึงออกจากตัวเมืองมุ่งหน้าไปยังน้ำตกและหาที่พักที่ไม่ไกลจากน้ำตกมาก เพื่อวันพรุ่งนี้ จะไปขี่รถไปเที่ยวน้ำตกกัน ออกจากตัวเมืองก็วิ่งทางถนนลาดหญ้า-บ่อพลอย ขณะนั้นเป็นเวลา น่าจะสองทุ่มเพราะได้แวะทานข้าวข้างทางกันนานพอสมควร ทางมืดมากไฟทางไม่ต้องพูดถึง ไม่มี!!! ขี่ไปแฟนก็บอกน่ากลัวเปลี่ยวมากข้างทางมีแต่ป้ายรีสอร์ท เพราะจากถนนเส้นนี้จะไปรีสอร์ท ต้องเลี้ยวเข้าซอยไปอีกเป็นกิโลจึงจะเจอรีสอร์ท ขี่ไปซักพักไม่ไหวน่ากลัวเลยบอกแฟน เจอรีสอร์ทไหนเลี้ยวเลยละกัน แล้วก็มาเจอป้ายรีสอร์ทxxxxx ป้ายบอกให้เลี้ยวเข้าไป หนึ่งกิโล เราก็เลี้ยวเข้าไป ทางขรุขระมากสองข้างทางมีแต่ป่าหญ้ารก ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านลงมาตามทาง ที่ผมขี่เข้าไป มองไมล์รถขี่เข้ามาประมาณ แปดร้อยเมตรแล้ว […]Read More
เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมาค่ะ เราไปเที่ยวเพชรบูรณ์รถเยอะมากตามที่เป็นข่าว แต่ไม่ได้ไปภูทับเบิกนะคะ เพราะไปแบบไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า คือหยุดยาวไปเที่ยวกันเถอะ ประมาณนี้ค่ะ พอไปถึงเพชรบูรณ์กะว่าจะไปไหว้พระที่วัดผาซ่อนแก้ว แล้วเที่ยวแถวนั้นเลยไปหาที่พักแถวนั้น ปรากฏว่าเต็มทุกที่ ถามเป็นสิบไม่มีว่างเลยอะไรจะซวยแท้ เลยชวนกันขับรถออกมาห่างพอสมควร เจอรีสอร์ทใหญ่เลยค่ะ (ตอนกินข้าวเที่ยงดูในหนังสือท่องเที่ยวที่รีสอร์ทมีไว้ให้อ่าน มีโรงแรมนี้ลงในโฆษณาด้วยค่ะ) รีสอร์ทอยู่ริมแม่น้ำได้ยินเสียงน้ำตกด้วยค่ะ ด้านหน้าติดถนนใหญ่ปลูกต้นไม้เต็มไปหมด ข้างแม่น้ำจะมีกระท่อมไว้ให้นั่งทานข้าวริมน้ำด้วยค่ะ ทีมเรามากัน 6 คนค่ะ เรากับน้องชาย และครอบครัวของน้า น้าพักบ้านใหญ่ เราพักบ้านเล็กมีเตียงแยก 2เตียงค่ะ พอได้ที่พักและทานข้าวเที่ยงแล้ว เราก็เอาของไปเก็บที่ห้องแล้วออกมาเลย เพื่อไปเที่ยวกันต่อ ตอนเย็นกลับมาก็แวะไปคุยกันที่ห้องน้า จนดึกประมาณเกือบเที่ยงคืนค่ะ จึงกลับมาที่ห้อง ลักษณะบ้าน จะเป็นหลังคามุงแบบหน้าจั่ว มุงลงมาถึงพื้น ตกแต่งดูดีค่ะ แต่ที่เราพักมีบ้านเราแค่หลังเดียวที่มีคนพัก บ้านลักษณะนี้มี 5 หลังติดกันค่ะ ด้านหลังเป็นต้นไผ่ต้นใหญ่มากลงไปถึงรำน้ำ เราเข้าห้องอาบน้ำ น้องชายก็เปิดทีวีดูอยู่ค่ะ ก็อาบไปจนเสร็จเลยจะเข้านอน เตียงเราจะยกพื้นปูนขึ้นมาค่ะ แล้วก็เป็นที่นอนวาง แยกกันโดยที่ผ้าห่มจะถูยัดใต้ที่นอนเหมือนถุงนอนเต้นค่ะ เราดึงผ้าห่มออกเพื่อจะเอาตัวเข้านอน แต่มันอับมาก เหม็นเปรี้ยวๆค่ะ คือแบบนั่งบนกลับน้องชายว่าผ้าห่มไม่เคยเจอแดดเลยรึไง โดยไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ ก่อนนอนก็ไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางตามปกติค่ะ แต่เราก็สังเกตเห็นว่าที่หัวเตียงมีหนังสวดมนต์วางว่าเป็นสิบเล่มเลยค่ะ ทั้งของพระเยซู ของอิสลามทั้งไทยและภาษาอาหรับ […]Read More
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณพลอย และคุณธี ที่เป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลาย จนตอนนี้เรียนมหาลัยปี 4 แล้ว เหตุเกิดที่ อ. อรัญประเทศ ทั้งคู่เล่าว่า.. วันนึงขณะที่ธีขับรถมาส่งพลอยที่บ้าน หลังเลิกเรียน ก่อนพลอยจะลงรถ แม่พลอยก็วิ่งหอบข้าวของเต็มมือ พร้อมจูงน้องภู น้องชายของพลอยมาด้วย แม่พลอยบอกว่า ‘ป้านาเพื่อนแม่ป่วย แต่แม่ไม่ว่างเลย งานยุ่งมาก ฝากแกไปเยี่ยมแทนหน่อยนะ เอาน้องภูไปด้วย พวกป้าๆ บ่นคิดถึงจะแย่..’ ยังไม่ทันตบปากรับคำ แม่ก็พาน้องภู ขึ้นไปนั่งหลังฝั่งคนขับ พร้อมจัดของฝากใส่ท้ายรถให้เรียบร้อย แล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไป พลอยกับธีมองหน้ากัน แล้วหันมามองน้องภูอย่างเซ็งๆ เพราะทางไปบ้านป้านานั้นไม่ไกล แต่เปลี่ยวและคดเคี้ยวมาก น้องภูอายุแค่ 3 ขวบพูดยังไม่ชัดเท่าไหร่ เป็นเด็กช่างพูด ช่างถาม จึงคุยถามนู่นนี่ไปตลอดทาง จนธีต้องบอกให้เงียบ เพราะต้องใช้สมาธิในการขับรถ และตอนนั้นถนนก็เริ่มมืดแล้ว แถมไฟส่องทางก็มีบ้าง ไม่มีบ้าง ธีขับรถไปตามปกติ จนมาถึงทางสามแยก ที่มีป้าย ‘โปรดระวัง เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง’ บ้านป้านาต้องเลี้ยวขวา ธีจึงมองรถทางซ้าย และตาเหลือบไปเห็นเครื่องเซ่น ที่อยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งเต็มไปหมด พลอย […]Read More
เรื่องมีอยูว่าเรากับแฟนได้เช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่แถวย่านอนุเสาวรีย์ เราเช่าอยู่ในราคา 20,000 บาท บ้านหลังนี้มีรูปแบบบ้านที่แปลกไม่เหมือนที่อื่นคือ ถ้าตรงกลางบ้านโล่งขึ้นไปถึงหลังคา บ้านหลัง นี้มี4ชั้นรวมชั้นดาดฟ้า บนดาดฟ้านี้มีศาลอยู่ด้วยค่ะ เราพอทราบมาว่าก่อนหน้าที่เราจะมาเช่า บ้านหลังนี้ว่างอยู่เกือบ2ปี หลังจากที่เราทั้งครอบครัวย้ายเข้ามานั้นเป็นช่วงที่ตรงกับฟุตบอลโลกพอดี คืนที่2หลังจากย้ายเข้าบ้านทุกคนหลับหมดแล้วเหลือแต่น้องชายนั่งดูบอลอยู่จนกระทั่งบอลจบ ช่วงเวลาประมาณ ตี2ครึ่ง น้องก็ได้เดินจากชั้น2ซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นกลับเข้ามานอนที่ห้องของตัวเอง ระหว่างทางที่เดินผ่านที่พักบันไดน้องชายไม่ได้เปิดไฟทางเดิน แต่มีไฟสลัวตรงหน้าต่าง น้องชายได้ยินเสียงผู้หญิง2คนคุยกันอยู่ตรงหัวบันได ประมาณว่า”ผู้ชายคนนี้เป็นใครเนี่ยเข้ามาในบ้านเราได้ยังไง” แต่น้องเราก็คิดว่ามันหูฝาด เพราะน้องไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องแบบนี้ก็เข้านอนตามปรกติจนหลับไปได้สักพักน้องชายเรารู้สึก มีคนมาดึงขาลากลงมาจากที่นอน น้องเรากลัวมากรีบมาเคาะห้องขอนอนกับแม่หลังจากคืนนั้นน้องเรามันย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมไม่มานอนที่นี่อีกเลย มาพูดถึงห้องนอนเราบ้างนะ เพื่อนๆลองนึกภาพห้องน้ำที่มีชักโครกที่เวลาเงยหน้าขึ้นไปจะมีหน้าต่างกระจกสามารถมองขึ้นไปแล้วเจอกับศาลตรงชั้นดาดฟ้าพอดี คิดเอาเถอะค่ะ เราไม่กล้าทำทุกข์หนักตอนกลางคืนกันเลยทีเดียว บอกได้ว่าน่ากลัว เราไม่สามารถข่มตาหลับในห้องนอนเวลาเรานอนคนเดียวได้แม้แต่ครั้งเดียว มีความรู้สึกเหมือนมีคนมองตลอดเวลาเพื่อนที่มานอนที่บ้านเหมือนกันโดนผีอำทุกราย ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราโดนทุกวัน จนเราชินมาก แต่บางครั้งก้อยังกลัวนะ ตลอดเวลาเกือบสองปีเจอแบบนี้ตลอดเหมือนมีคนอยู่ด้วยทั้งๆๆที่เราอยู่คนเดียว หมาเราชอบเห่ามุมของห้องนอน (มุมนั้นมุมเดียวจริงๆๆห้องนั้นห้องเดียวด้วยตลอดระยะเวลาเกือบ2ปีมันเห่าทุกวันและต้องเป็นเฉพาะตอนเราอยู่คนเดียว)จนก่อนที่เราจะย้ายออก เรายืนล้างจานอยู่ในครัวซึ่งน่ากลัวมากด้านหลังติดกับห้องครัวเป็นห้องเก็บของที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปคนเดียวนอกจากแฟนเรา ขณะที่เรายืนล้างจานอยู่เราได้ยินเสียงมีใครเรียกชื่อเราอยู่ตรงข้างหู เราตกใจมากสะดุ้งสุดๆเพราะมันอยู่ข้างหูเราเองสามารถรู้สึกได้แต่เราไม่ได้ขานรับนะจากนั้นมาเราก้อย้ายออก จากนั้นพอเราย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่เรีบยร้อยแฟนเราก็เล่าให้เราฟังว่า เค้าเป็นคนไม่เคยเชื่อเรื่องผีเพราะเค้าเป็นต่างชาติแต่เค้ากลับบอกเราว่าตลอดเวลาที่เค้าอยู่บ้านหลังนั้นเค้ารู้สึกเหมือนมีคนอื่นอยู่ด้วยนอกเหนือจากเราเวลาที่เค้าอยู่ในบ้านรู้สึกถึงสายตาจ้องมองตลอด เค้าบอกว่าไม่อยากเล่าให้เรากลัวหรือไม่สบายใจขอยืนยันว่านี่เป็นเรื่องจริงจากที่เจอหลอนนิดๆๆกันบ้างไหมคะ ติดตามเรื่องผีผี RedMOONRead More
ไปเป็นแม่บ้านที่บ้านลึกลับแต่ถูกบางอย่างตามติด ขนาดถวายปัจจัย พระยังไม่รับ!!
เมื่อวานมีโอกาสได้อ่านเรื่องผีในพันธิป เรื่อง “ธี่….หยด” นอนหลอนอยู่สักพักแล้วนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่แม่เคยเล่าให้ฟัง ช่วงที่แม่มาอยู่กรุงเทพฯใหม่ๆ ตอนนั้นอายุได้ 20 ปี ย้ายมาทำงานเป็นแม่บ้านอยู่บ้านนายญี่ปุ่น ที่ประกาศรับสมัครงานตามเสาไฟ บ้านนายตั้งอยู่ย่านหนองจอก สมัยนั้นหนองจอกนี่กันดารมาก แม่บอกว่าบ้านตั้งอยู่กลางทุ่งเลย ละแวกนั้นมีบ้านชาวบ้านอยู่ 2-3 หลัง ส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2 ชั้น ใต้ถุนโล่ง ส่วนบ้านนายเป็นปูนชั้นเดียว แต่ค่อนข้างใหญ่ มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องเก็บของ ส่วนแม่จะนอนห้องเก็บของ มีห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องแม่จะติดกับห้องลูกสาวนายแต่ห้องลูกสาวนายจะไม่มีห้องน้ำในตัว แม่ใช้เบอร์ตู้โทรนัดพบกับนายญี่ปุ่นบริเวณหน้าตลาดแห่งนึงที่เคยเปิดเป็นสวนสนุกมาก่อน แม่เล่าว่าครั้งแรกที่โทรไปไม่ทันมีเสียงตู๊ด ปลายสายก็รับทันที แต่เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงผู้ชาย พูดรัวๆ เร็วมากๆ เร็วจนฟังไม่รู้เรื่องเลย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น แม่ก็ฟังไม่รูเรื่อง เสียงพูดรัวมาไม่ถึงนาที สายก็ตัดไป แม่ก็งง เลยหยอดตู้โทรใหม่ คราวนี้เสียงตู๊ด ดังอยู่แป๊บนึง ก่อนจะมีเสียงผู้ชายรับโทรศัพท์ แม่แนะนำตัวเสร็จ ผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาด้วยภาษาไทยสำเนียงญี่ปุ่นว่าตกลงๆ เดี๋ยวไปรับ นัดที่เสร็จแล้ว มีรถเก๋งคันนึงมารับ พอขึ้นรถไปแม่บอกว่ารถเหม็นสาบมาก เหม็นเหมือนกลิ่นตัวคนขับไม่ได้อาบน้ำมาเป็นปีๆ […]Read More
เรื่องมีอยู่ว่า ย้อนกลับไป เมื่อ ปี 2548 เป็นปีที่ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เข้าปี 1 พอดี มีผม พี่สาวและเพื่อนของพี่สาวเป็นผู้หญิง ไปกันทั้งหมด 3 คนครับ ก็ชวนกันไปเที่ยวเขาใหญ่ และเข้าพักที่บ้านพักหลังนี้ ก่อนอื่นขออธิบายลักษณะบ้านพักนะครับ เป็นบ้านพักสไตล์รีสอร์ท 3 หลังเรียงกันครับ หลังที่ผมเข้าพักเป็นหลังตรงกลาง สภาพสวยครับ มีสนามหญ้าหน้าบ้าน มองเข้าไปจะเห็นตัวบ้าน เป็นทรงหลังคาจั่ว มีสองชั้นครับ ชั้นล่างมองเข้าไป ซ้ายมือจะเป็นห้องรับแขก ถัดจากห้องรับแขก จะมีเสาไม้อยู่กลางบ้านเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ถัดจาบันได จะเป็นห้องนอนครับ ส่วนขวามือจากทางเข้าจะที่รับประทานอาหารและห้องครัว ถัดเข้าไปจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งถ้าเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปจะต้องเดินลงบันได ลงไปใต้ดินครึ่งชั้นครับ จะมีอ่างล้างหน้าตั้งอยู่ ซึ่งปกติอ่างล้างหน้าจะต้องมีกระจกเงา แต่ที่นี่ ไม่มีกระจกครับ เป็นช่องสี่เหลี่ยมผลุบเข้าไปที่ผนังและมีแจกันดอกไม้ปลอมตั้งอยู่ 1 อันครับ ส่วนชั้นที่ 2 ขึ้นบันไดตรงกลางบ้านขึ้นไป ก็มีห้องน้ำอยู่ตรงหน้าบันได ห้องนอน แยก ซ้ายขวา ครับ แน่นอนครับ เหตุการณ์ที่ผมประสบเจอกับพี่สาว เกิดขึ้นที่บริเวณชั้นล่างของบ้านพักหลังนี้ครับ […]Read More
สวัสดีครับ ผมจะมาเล่าเรื่องแปลกๆ ที่ผมประสบพบเจอเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยปกติ ผมจะวิ่งขึ้น ทางเหนือ 2ครั้งต่อปี เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ได้ย้าย ตั้งรักรากปักฐานที่นั่น และ ครอบครัวผมมีบ้านที่นั่นด้วย(ซื้อไว้เวลาขึ้นไปเที่ยว ทีแรกก็กะซื้อให้พ่อไว้อยู่ ช่วงอายุเยอะๆ) ด้วยที่ผมทำงานประจำ หยุดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ เวลาขึ้นจะขึ้นไปช่วงวันหยุดยาวหรือไม่ก็ช่วงเทศกาล ถ้าคนที่ขึ้นเหนือบ่อยๆ น่าจะทราบดีว่าเส้นทางหลักที่ขึ้นจะเป็นสายเอเชีย อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ไปเรื่อยจนถึง นครสวรรค์ แต่จะมีอีกสายนึง ที่ใช้สำหรับเลี่ยงช่วงเทศกาล รถติด นั่นคือเส้น สุพรรณฯ ชัยนาทแล้วไปตัด สายเอเชีย ที่อำเภอมโนรมย์ พ่อผม(ปัจจุบันเสียแล้ว) เวลาจะขึ้นทางเหนือเค้าสอนว่าให้ออกกลางคืนประมาณ เที่ยงคืน ตีหนึ่ง เพราะว่า สมัยก่อน จะยังไม่มีกล้องจับความเร็ว ตำรวจทางหลวงจะใช้รถทางหลวงจอดแอบถ่ายรูป แล้วว.ไปด้านหน้า อีกเหตุผลนึงคือ ทำเวลาได้เนื่องจาก รถน้อยมากแทบไม่มี เมื่อปี 2553 ช่วงปลายๆปี ผมมีโอกาสขึ้นไปที่ภาคเหนือ ปกติจะไปกัน 4-6 คน […]Read More