แท็กซี่กะดึก เรื่องผีสั้นๆ
เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณเบิร์ดโดยตรง แต่เกิดกับเพื่อนของคุณเบิร์ดที่ชื่อว่าคุณเอ็มซึ่งผู้หญิง เป็นเรื่องผีสั้นๆ
คุณเอ็มมีแฟนชื่อว่าคุณบีซึ่งเป็นผู้ชาย บ้านของเอ็มและบีนั้นจะอยู่แถวปิ่นเกล้า ส่วนบ้านของพ่อแม่ของคุณบีนั้นอยู่สาทร ปกติแล้วทั้ง 2 คนก็จะไปกลับ ระหว่างสาทรและปิ่นเกล้าอยู่บ่อย ๆ โดยอาศัยนั่งแท็กซี่ และนี่ก็คือจุดเริ่มเรื่องทั้งหมด คืนหนึ่งเวลาประมาณตี 2 ทั้งคู่กำลังจะเดินทางจากสาทรกลับปิ่นเกล้า โดยทั้งคู่เดินออกมารอรถแท็กซี่อยู่ประมาณ 10 – 20 นาที แล้วก็มี แท็กซี่คันหนึ่งวิ่งผ่านมา คุณเอ็มจึงโบกให้จอดรับ
สภาพภายนอกของรถนั้นดูดีสะอาดเป็นปกติทั่วไป พอแท็กซี่จอด ทั้งสองคนก็ขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหลังด้วยกันทั้งคู่และก็บอกจุดหมายปลายทาง แล้วก็เริ่มออกรถ พอรถเริ่มขึ้นสะพานสาทรมุ่งหน้าเข้าสู่วงเวียนใหญ่ ต่างคนก็ต่างเงียบ เนื่องจากง่วงด้วยกันทั้งคู่ แถมเป็นเวลาดึกมากแล้วด้วย พอช่วงที่รถแท็กซี่ลงจากสะพานสาทรก็เริ่มจะได้กลิ่นเหม็น กลิ่นนั้นค่อย ๆ เหม็นขึ้น..เหม็นขึ้น จนผิดสังเกตคุณบีและคุณเอ็มนั้นก็เริ่มจะมองหน้ากันด้วยความสงสัย
ตัวของคุณบีนั้นรู้ว่ากลิ่นแบบนี้มันคือกลิ่นอะไร เพราะว่าเคยเข้าร่วมเป็น เจ้าหน้าที่อาสาในมูลนิธิแห่งหนึ่ง มันคือกลิ่นของศพคุณเอ็มเริ่มกลัวและกังวลเพราะตอนนั้นคุณเอ็มกำลังท้องอยู่ด้วย คุณบีเลยกอดคุณเอ็มไว้ พอรถขับเข้าวงเวียนใหญ่กลิ่นนั้นก็แรงขึ้น แรงจนคุณเอ็มเกือบจะทนไม่ไหว อยากจะอาเจียนออกมาทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยแพ้ท้อง ถึงกับต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดจมูกกัน คุณบีก็เลยถามคนขับรถว่า
“พี่ครับ พี่ได้กลิ่นอะไรมั้ย”
คนขับนั้นไม่ตอบ นิ่งเงียบและขับรถเพียงอย่างเดียว คุณบีก็เลยเงียบต่อไป รถแท็กซี่นั้นเคลื่อนไปทางสี่แยกบ้านแขก เลี้ยวเข้าถนนเจริญพาศน์ เพื่อมุ่งหน้าออกปิ่นเกล้า จู่ ๆ ทั้งคู่นั้นก็ได้ยินเสียงนอกรถ ดังเหมือนกับว่ามีอะไรซักอย่างมากระแทกตัวรถเสียงดัง พรึ่บ ๆ เสียงที่ว่านั้นกำลังกระแทกประตูหลังที่คนทั้งสองกำลังนั่งอยู่ คุณบีและคุณเอ็มต่างมอง ออกไปด้วยความสงสัย ก็เลยถามคนขับรถอีกครั้งว่า
“พี่ครับ เสียงอะไรดังเหมือนกับมีอะไรฟาดรถอยู่เลย”
พี่คนขับรถแท็กซี่ไม่ตอบเหมือนเดิม
รถนั้นมุ่งหน้าไปถึงแยกโพธิ์สามต้น คุณเอ็มก็เลยบอกกับคุณบีว่า
“ลงเถอะ ไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม”
คุณบีเลยกระซิบข้างหูคุณบีว่า
“อดทนหน่อย อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว มันดึกมาก หารถยาก”
คุณเอ็มก็เลยต้องยอมอดทนต่อไป
รถนั้นเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ ประตูรถจากที่ปกติดี ๆก็เกิดไม่ปกติขึ้น ประตูรถทั้ง 2 ด้านนั้นในตอนนี้เหมือนกับว่าปิดไม่สนิท มันดัง เหมือนจะหลุดออกมา คราวนี้ทั้ง 2 คนกอดกันแน่น จับมือกันไว้ มือของทั้งคู่จับท้องของเอ็มไว้เนื่องจากเป็นห่วงเด็ก
และคราวนี้คุณบีที่กำลังจะอ้าปากถามพี่คนขับก็ถึงกับอึ้ง เมื่อมองไปที่คนขับรถแล้วจากตอนแรกที่ปกติดี
เห็นเป็นคนผู้ชายธรรมดา แต่ ณ ตอนนี้ มองดูเหมือนไม่ใช่คน
หน้าตาที่มองจากด้านข้าง เนื่องจากบีนั้นนั่งด้านหลังฝั่งซ้ายมือ จะเห็นคนขับตลอด หน้าตาที่เห็นด้านข้างนั้นมันบวม แล้วก็ช้ำ แขนก็ช้ำ ตาซ้ายของพี่คนขับนั้นก็เป็นสีแดงก่ำ
ส่วนกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ว่าก็ยิ่งโชยตลบอบอวลหนักยิ่งกว่าเดิม คุณบีนั้นถึงกับ จะกลั้นไม่อยู่ และก็รู้ตัวแล้วว่ากำลังเจออะไรอยู่ จนกระทั่งรถนั้นถึงที่หมายกำลังจะเลี้ยวเข้าไปในซอย ซอยนั้นเป็นซอยตัน พอรถเลี้ยวปุ๊บคุณบีก็บอกให้คนขับนั้นจอดเนื่องจากถึงแล้ว เดี๋ยวจะเดินเข้าไปในซอยบ้านเอง
พอพี่คนขับจอดบีก็ควักเงินจ่ายให้ โดยพี่คนขับรถนั้นก็ทอนเงินกลับมาเป็นเหรียญบาททั้งหมด 11 บาท ทันทีที่ทั้งคู่ปิดประตูรถทั้งสองแทบล้มทั้งยืน ช็อคแทบสติแตก ก้าวขาไม่ออก ได้แต่ยืนกอดกันแน่นมาก ขนหัวลุกด้วยกันทั้งคู่ คุณเอ็มนั้นถึงกับกรี๊ดเสียงดังลั่นซอย ภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าตอนนี้คือสภาพรถแท็กซี่ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นตอนขึ้นมาครั้งแรก สภาพรถในตอนนี้แย่มาก เก่ามาก โทรม ล้อทั้ง 4 นั้นแบน สีรถถลอกยับเยิน ทะเบียนรถไม่มี แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่นั้นช็อคมากที่สุดก็คือ บนหลังคารถมีพวงหรีดวางอยู่
ท้ายกระโปรงหลังประดับติดด้วยดอกไม้จันท์กระดาษ หน้ารถก็มีพวงหรีดเล็ก ๆ วางรายล้อมพร้อมกับดอกไว้จันท์กระดาษสำหรับเอาไว้โยนเข้า เตาเผาในเมรุ
ส่วนเชือกสีขาวๆที่ตีตัวรถมาตลอดทางก็คือ สายสิญจน์เส้นใหญ่ๆหลายเส้นถูกพันเอาไว้รอบคัน รวมกับกลิ่นศพที่คละคลุ้งไปทั่ว ทั้งสองต้องยืนลุ้นอีกรอบตอนที่รถนั้นกลับออกมา รถผ่านพวกเขาไปช้า ๆ คุณบีมองเข้าไปที่นั่งคนขับก็ต้อง ช็อคอีกครั้ง เมื่อคนขับรถที่คุณบีมองเห็นนั้นเป็นศพที่กำลังลืมตา ตาแดงมาก ปากช้ำตัวช้ำไปทั้งหมด รถค่อย ๆ ขับแล่นออกไปจากซอย ทั้งคู่ยืนควบคุมสติอยู่ แล้วคุณบีก็บอกกับคุณเอ็มว่า
“เดิน เดิน ก้าวขา ค่อยๆ ค่อยๆก้าว หายใจลึกๆ ไม่ต้องวิ่งนะ”
จนทั้งคู่กลับไปถึงบ้านได้ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้รีบไปวัดทำบุญในตอนเช้าวันถัดมา แล้วก็ได้เอาเงินทอนที่เป็นเหรียญบาททั้งหมด 11 เหรียญนั้นทำบุญที่วัด ทั้งหมด คุณบีนั้นเป็นไข้ไป 2 วัน หลังจากนั้นมาทั้งคู่ก็ไม่กล้าอาศัยรถแท็กซี่ในตอนกลางคืนอีกเลย
เรื่องราวทั้งหมดกด็จบลงเพียงเท่านี้…
ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิป
ติดตามเรื่องผีผี RedMoon ค่ำคืนสีเลือด
อ่านเรื่องผีอื่นๆ GhostStorythai.com