มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1

 มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1

มีเพื่อนเป็นผีเปรต ตอนที่ 1

แชร์เรื่องนี้

ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

“ฮัลโหล ว่าไงแจน  หายไปนานเลยนะมีอะไร”
“หยก  กุมีเรื่องจะปรึกษา”
“ว่ามา”
“กุฝันเห็นไอ้แป้งอีกแล้ว”
“ฝันว่าพรือล่ะ”

“มันมายืนร้องไห้  เสื้อผ้าไม่มีใส่  ตัวมันมีแต่แผลเลือดไหลเต็มตัว  น่ากลัวเหลือเกินมึงเอ๊ย”

การโทรมาของแจน  เพื่อนสมัย ม.ต้น  เอ่ยถึงแป้ง  เพื่อนอีกคนผู้ล่วงลับไปได้เกือบ2ปีแล้ว  ผุดเรื่องราวของเธอขึ้นมาในหัวดิฉัน   ทำให้ดิฉันรู้สึกกังวล  สงสาร  เป็นห่วง เพื่อนที่ชื่อว่าแป้ง  ถึงเราจะไม่ได้สนิทอะไรกับแป้งมากมาย  ตามประสาเพื่อนสนิทของเพื่อนสมัย ม.ต้น  ที่เคยเจอเคยคุยกันสมัยยังเป็นๆ  ก็พอทำให้ดิฉันได้รับรู้เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ปากกัดเท้าถีบ  พยายามเชิดหน้าอยู่ในสังคมไม่ยอมจม  ก่อกรรมทำเข็ญไม่เคยเกรงกลัวบาป  จนวันที่เธอต้องจากทรัพย์สมบัติที่เธอสร้างมันขึ้นมาจากการทำบาปไปอย่างไม่มีวันกลับ  และต่อไปนี้คือเรื่องราวของเธอค่ะ

ดิฉันกับแจน  เคยเรียนด้วยกันสมัย ม.ต้น  ที่โรงเรียนควนขนุน  จ.พัทลุง  พอจบ ม.ต้น  เราก็ต้องแยกกัน  เพราะดิฉันต้องย้ายเรียนที่โรงเรียนสตรีพัทลุง  ที่เป็นโรงเรียนระดับจังหวัด  ส่วนแจนกลับไปเรียนที่ป่าพะยอม  เราติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้างนานๆครั้ง  สอบถามเรื่องราวความเป็นไปของชีวิต ม.ปลาย  
แต่หลักๆคือจะกดไลค์ ส่งข้อความหากันทางเฟสเอา  

ดิฉันมีเพื่อนใหม่ๆที่สตรีพัทลุง  แจนก็มีเพื่อนใหม่ๆ  และคนที่เข้ามาสนิทกับแจนในช่วง ม.ปลาย คือแป้ง
เราเคยนัดเจอกันบ้าง  พากันไปดูหนังบ้าง  เป็นครั้งคราว  ทำให้ดิฉันได้เจอแป้งในตอนนั้น   แป้งเป็นผู้หญิงอวบค่อนไปทางอวบระยะสุดท้าย  แต่แป้งตัวขาวและหน้าสวย  แล้วก็มีแฟน (สามี) โดยพฤตินัย   เป็นนักเลงหัวไม้  ขายยา
ค้าปืนเถื่อน  เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นละแวกนั้นพอสมควร  พี่ดิฉันเองก็รู้จัก  และมักเตือนดิฉันเสมอว่า  อย่าไปมั่วกับมันไอ่พวกนั้น  ระวังมันจะปล้ำเอา

พอได้พบได้พูดคุยกัน  แป้งก็เลยกลายมาเป็นเพื่อนของดิฉันไปด้วยอีกคน  แต่ก็ไม่สนิทอะไรมากมาย  เพราะดิฉันไม่ต้องการสนิท  เหตุเพราะ  ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับกลุ่มแฟนของแป้ง ดิฉันนานๆทีถึงจะเข้าไปดูเฟซสักครั้ง  เพราะตอนนั้นอยากตั้งใจเรียนให้เกรดออกมาดีๆ เตรียมตัวเพื่อการไปต่อมหาลัยด้วย   เราเลยห่างๆกันไปพอสมควร  แล้วดิฉันก็มีเรื่องราวเข้ามาให้ต้องคิดเยอะเกินจะสนใจเพื่อนผู้เริ่มไกล

ปี2557 ดิฉันลงมาอยู่ที่สงขลา  เรียนราชภัฏ  พอเช็คอินสงขลา  แจนก็ทักมาทางเฟซ

“หยก  อยู่สงขลาออ”
“ใช่ เราเรียนราชภัฏ แจนอ่ะ เรียนที่ไหนไมได้คุยกันนานเลย”
“เราเรียน ม.หาดใหญ่ กับแป้ง  ว่างๆมาเที่ยวที่เรามั่งนะ”
“เครๆเลย”

หลังจากนั้นจนขึ้นปี2แล้ว  ดิฉันก็หาโอกาสไปหาแจนที่หาดใหญ่  ก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปหา พร้อมก้อย
ดิฉันไปเจอแจน  ที่บ้านเช่า ใกล้ๆมหาลัยที่แจนเรียน    เพราะแจนโทรบอกทาง  แจนอยู่กับแป้ง 2คน
แต่วันที่ไปตอนนั้นแจนอยู่คนเดียว  ดิฉันจึงขึ้นไปนอนคุยกับแจนที่เตียงนอน  เลยเผือกถามถึงแป้ง

  “แจน  แป้งมันไปไหนหละ”
  “ไปอยู่กับลูกค้ามันมั้ง”
  “ลูกค้า ??? แป้งมันขายของหรอ  หรือทำอะไร ขายประกันเปล่า”

แจน ไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นไปล๊อกประตูห้อง ก่อนจะมาพูดเบาเสียงว่า

  “แป้ง มันเป็นไซด์ไลน์”
  “หะห๊า อะไรนะ”
   “เบามึง   กูเองก็อึดอัด  มันก็เพื่อน  มึงก็เพื่อน  กูจะเล่าให้ฟังแล้วกัน  แต่มึงอย่าเอาไปคุยนะ  กูไม่อยากทะเลาะกับไอ้แป้งมัน “
   “เออ  ว่ามาดิ”

แจน ก็เริ่มเล่าว่า ตอนเข้ามาเรียนปี1 ที่หาดใหญ่ เนี่ย แจนน่ะมาเรียนสบายๆ เพราะที่บ้านมีเงินส่งเรียน  ส่วนแป้งน่ะ  สามีที่เป็นแก๊งค์ขี้ยา  ส่งเงินให้มาเรียน  ปี1เรียนไปได้ 3 เดือน แป้งมันก็ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาก  เพราะไม่ต้องหาเอง ใช้แต่ของดีๆ กินอาหารหรูๆ โพสต์ลงเฟสบ่อยๆ  ใครๆก็อิจฉาแป้ง  แล้วตัวแป้งเอง ก็ลดน้ำหนักลงจนหุ่นเช้งมาก เพราะแป้งเคยอวบเกือบอ้วน  พอลดได้ ก็เลยกลายเป็นสาวที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเลย คือ  ขาว  สวย  รวย และเป็นนักศึกษาด้วย

แต่ชีวิตดี๊ดีของแป้งก็มีวันจบ  เพราะแฟนคนที่ส่งเงินจากการทำผิดกฎหมายน่ะ  โดนตำรวจเมืองลุง  จับยัดเข้าห้องขังข้อหาค้ายา   แป้งก็ขาดท่อน้ำเลี้ยง  แรกๆแป้งก็เอาพวกทองที่ซื้อๆเก็บไว้นั่นแหละขายกิน  ไม่ยอมจมเด็ดขาด  แป้งเคยบอกแจนว่า  มันอาย  ถ้าจะให้คนอื่นมาเห็นว่ามันกำลังจม   ทีนี้แป้งก็ไปสมัครงาน  ทำงานร้านเหล้า  แต่งตัววับๆแวมๆ แต่รายได้ดี  กลางวันเรียน กลางคืนทำงาน   ก็รายได้ดี เพราะแป้งหน้าตาสวย  ขาว  ถูกใจนักเที่ยว  เลยได้ทิปเยอะ

แต่จุดเริ่มต้นของการเป็นไซด์ไลน์ของแป้ง  มันเริ่มมาจาก  การไปทำงาน  แล้วมีคนของนักการเมืองท้องถิ่นมาติดต่อบอก  มีท่าน สนใจ  อยากให้ไปกินข้าวด้วยสักคืน   จะช่วยค่าเทอมสักหมื่นสองหมื่น สนใจไหม  แป้งเองก็ไม่ใช่สาวใสๆมาจากไหน  เงินเป็นหมื่นๆในคืนเดียว  แป้งก็ไป  กลับห้องมาก็เช้าของอีกวัน  เอาเงินมาอวดเป็นฟ่อนๆ  แต่ตามเหนืออก กับคอของแป้งน่ะ มีรอยดูดเป็นจ้ำแดงๆ  แจนก็รู้แล้วว่าแป้งไปทำอะไรมา  แจนก็ได้แต่บอกแป้งว่า  อย่าไปทำแบบนี้อีกนะ  มืงกำลังลดศักดิ์ศรีในตัวมืง
แต่แป้งก็ตอบกลับแบบแจนต้อง สะอึกว่า

  “ศักดิ์ศรี มันทำให้กุอิ่มหรอ  ศักดิ์ศรีจ่ายค่าห้อง ให้กูหรือเปล่า “  

แป้งสร้างภาพได้เก่งมาก  หน้าเฟส  ใครๆก็มองว่าแป้งเป็นคนหน้าตาดี  มีฐานะ  เพราะไม่มีใครรู้ว่าบ้านของแป้งกินอยู่ทำมาหากินอะไร  แต่แจนและเพื่อนที่รู้จักตอนเด็กๆจะรู้  เพราะบ้านของแป้งที่ป่าพะยอม  พ่อแม่ก็ทำสวนยางเหมือนหลายๆคน    จริงๆแป้งก็ไม่น่าจะลำบากอะไร  แต่แป้งเคยบอกเสมอว่า   เธอต้องการมีชีวิตของตัวเอง  ต้องการมีหน้ามีตา…ที่มีผัวรวย  ถึงจะรวยเพราะของผิดกฎหมาย  แป้งก็ไม่สน  เพราะมันทำให้แป้งมีชีวตที่สุขสบาย

แจนบอกดิฉันว่า  แป้งเคยบอกแจนว่า  เธอไม่ได้รักอะไรผัวเธอหรอก   แต่ที่ทนคบเพราะมีเงินประเคนให้ไม่ขาด พอผัวมาโดนตำรวจจับเข้าคุก  แป้งก็เหมือนได้ปลดแอกชีวิตตัวเอง  พอดีเข้ามาอยู่ในหาดใหญ่  หนุ่มๆเยอะ  เสี่ยๆก็มาก นักธุรกิจ ทั้งไทย-มาเลย์  ตำรวจ ทหาร ตามใจแป้งต้องการ  เพราะเธอมีรูปกายเป็นทรัพย์  ที่เหนือกว่าสาวๆทั่วไป

แป้งสร้างภาพให้ตัวเองดูไฮโซ  เติบโตด้วยตัวเอง  รับงานเชียร์เบียร์  MC พริตตี้ ถ่ายแบบ เอามาลงเฟสอวด พร้อมแค๊ปชั่นแนวๆปลุกใจ  ให้คนอื่นแบบต้องชื่นชม เคยขายของออนไลน์อยู่พักนึง  พวกครีม  น้ำหอม สบู่ แต่จริงๆ แป้งแสร้งทำว่าขาย จริงๆก็ขายได้อยู่  แต่มันแค่กระจึ๋งเดียว  ไม่พอสำหรับคนมือใหญ่แบบแป้ง ขายได้ มีคนสั่งซื้อ เธอก็วานให้แจนนั่นแหละส่งของให้ลูกค้าแทน

แป้งก็แค่สร้างภาพว่าทำงานสุจริต  ให้คนที่ไม่สนิทหลงเชื่อ  แต่เบื้องหลังคือ  แป้งรับงานคืนความสุขให้คนกระเป๋าหนัก สำหรับผู้คลั่งไคล้นักศึกษาโดยเฉพาะ  แต่แป้งเองก็ฉลาดเลือก  เพราะเธอไม่ได้รับงานถี่ๆ  เน้นงานที่เงินหนักจริงๆ  หลักๆจะเป็นนักธุรกิจจากมาเลย์ ที่เข้ามาเที่ยว  แล้วก็เอาไปบอกต่อๆกันในสังคมของเค้าเวลาหนีเมียมาเที่ยวหาดใหญ่ฝั่งไทย สมัยนั้นยังเช่าหอราคาถูกอยู่ พอเริ่มมี แป้งก็อยู่ไม่ได้แล้วห้องเช่า   ก็ชวนแจน ออกไปหาบ้านเช่าอยู่  เพราะจะได้ความกว้างขวางสะดวกสบายกว่าห้องแคบๆ  โดยแป้งให้แจนออกเงินเท่าเดิมกับตอนเช่าห้องนั่นแหละ  ที่เหลือ แป้งจะจ่ายเองทั้งหมด

แจน เห็นว่า บ้านเช่าที่แป้งไปเช่า  อยู่ใกล้มหาลัย  การเดินทางสะดวกสบายกว่ามาก   ก็เลยยอมย้ายตามที่แป้งบอก บ้านหลังที่เช่านั้นเป็นลักษณะบ้านเดี่ยว  แต่สร้างติดๆกัน เวลาปกติ แจนและแป้งก็ใช้ชีวิตเหมือนนักศึกษาทั่วไป แต่แจนจะเรียนอย่างเดียว ไม่ต้องทำงานเหมือนแป้ง เพราะมีทางบ้านส่ง แจนเป็นคนสมถะ ไม่ฟุ้งเฟ้อ เธอเลยไม่ได้เดือดร้อนอะไรไปกับสังคมรอบข้าง

แต่แป้ง ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ เริ่มมีสังคมเพื่อนจอมปลอม  พากันเที่ยวกลางคืนบ่อยครั้ง  ไปผับชื่อดังในหาดใหญ่  จนเหมือนเป็นบ้านหลังที่2ของตัวเอง  ยิ่งพอแป้งไปออกรถยนต์ป้ายแดงมา  แป้งก็บินสูงจนพักหลังๆก็แทบจะไม่ค่อยได้คุยกับแจนทั้งๆที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน  จะคุยกันเฉพาะวันที่แป้งไปเรียน   แป้งก็ไปเรียนงั้นๆ  จริงๆแป้งเคยบอกแจนว่าไม่อยากเรียนแล้ว  เหนื่อย  แต่ก็ต้องการคงสภาพนักศึกษาไว้โก่งราคาค่าตัว  เลยยังไม่ออกจากมหาลัย

แจนเองก็อึดอัด  กับอาชีพที่แป้งทำ  เคยเตือนจนโดนแป้งตอกกลับ  เธอก็เลยไม่อยากไปยุ่งกับแป้งอีกในเรื่องนั้น แป้งแอบทำงานคืนความสุขไป   โดยที่เพื่อนๆในสังคมใหม่ไม่เคยรู้เลย  ต่างคิดว่าแป้งรวยจากทางบ้าน แล้วแป้งก็เปิดตัวแฟนใหม่  เป็นหนุ่มหน้าตาดี  ก็เจอกันในผับนั่นแหละ  แป้งเคยพาหนุ่มคนนั้นมานอนที่บ้านหลายครั้ง
แจนบอก  เธอมองแฟนใหม่แป้งแล้วก็รู้สึกสงสารเหมือนกัน   ที่ไม่รู้เลยว่าแป้งแอบทำงานอะไร  ถึงได้มีเงินใช้ไม่ขาด

พอแป้งเริ่มมีแฟน  ก็เริ่มประสบปัญหากับการค้า  เพราะเคลียร์คิวให้ไม่ได้  ลูกค้าบางคนก็ถาม  พอจะมีเพื่อนที่สนใจบ้างไหม  เน้นขอที่ยังเรียนอยู่นะ  แป้งก็ไปกล่อมเพื่อนที่เป็นนักศึกษาด้วยกัน ว่าทำงานสบายๆได้เงินเยอะ สนใจไหม ขนาดแจนเอง  แป้งยังเคยมาพยายามกล่อม เพราะแจนก็เป็นคนหน้าตาดีคนนึง เพียงแต่น้อยกว่าแป้ง  จนทำให้แจนโกรธแป้งและด่าแป้งว่า   “อิเพื่อนเปรต” มาแล้ว ตอนนั้นแจนโกรธขนาดแจนจะย้ายไปเช่าหออยู่ตามเดิม  แป้งถึงมาขอโทษ มาง้อแจน ขอร้องว่าแจนอย่าไป  เพราะแป้งมีเพื่อนที่สนิทใจที่สุดคนเดียวคือแจน

แป้งทำตัวเป็นแม่เล้าในคราบนักศึกษา ขนาดย่อมๆ  มีเพื่อนสาวในสังกัด 4-5 คน บางคนไม่ได้เรียนอะไรหรอก เป็นเด็กบ้านๆ เด็กเที่ยวกลางคืนนี่แหละ  แป้งก็ไปซื้อชุดนักศึกษามาให้ใส่  แล้วทำทีไปนั่งถ่ายรูป  แช๊ะว่า  มาเรียน ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนจริงๆ  เพื่อโชว์ให้ลูกค้าเห็นว่า นี่ เป็นนักศึกษาใสๆนะ  แต่เปล่าเลย บางคนมีลูกมีผัวแล้วด้วย
แต่ก็แอบมาทำ เพราะเงินมันดี ส่วนแป้งก็กินหัวคิวอีกทางจากการเป็นคนส่งงานให้ทำ   ทั้งตัวเองก็เลือกรับแขกที่มีระดับ ส่วนแขกที่ระดับรองๆลงมา หรือไม่ถูกใจแป้ง แป้งก็จะโยนให้เพื่อน ตัวเองกินค่าหัวคิว

แป้งคือตัวอย่างของคนที่ลุ่มหลงในอบายมุขเต็มพิกัด  บุญไม่เคยทำ  บาปนั้นสม่ำเสมอ  ทั้งชักนำ ชักชวน  ทำเอง  แถมยังเล่นยาในพักหลังๆ บ้านกลายเป็นแหล่งมั่วสุม  ตั้งวงในวันว่าง  จนแจนต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ชีวิตของแป้งวันทั้งวันเอาแต่สาละวนเพิ่มยอดเงินในบัญชีในทางผิดศีลธรรม และการสร้างภาพลักษณ์ให้คนรอบๆตัวอิจฉา  จริงๆเราก็แอบอิจฉาเหมือนกันนะ ว่าเอ้อ แป้ง มันเก่งจัง ร่ำรวยจากการทำงาน ได้ทำงานแต่งตัวสวยๆ ในขณะที่เราเองยังแบมือขอเงินพ่อเรียนอยู่เลย  นั่นคือตอนที่เรายังไม่รู้เรื่องจากแจน
ว่าแป้งแอบทำงานอะไร

แป้งทำตัวหนักขึ้นทุกวัน จนแจนเริ่มทนไม่ไหว  ฟิวส์ความอดทนมันขาด ก็เลยด่ากราดทั้งแป้งและเพื่อนสังคมใหม่ของแป้งคาวงเหล้าในบ้านเช่าหลังนั้นแหละ ว่าเคยเกรงใจกันบ้างมั้ย เพราะแจนต้องการสมาธิในการอ่านหนังสือ แป้งก็ถือตัวว่าตัวเองเป็นคนเช่าบ้านและจ่ายค่าเช่ามากกว่าแจน  ก็เลยเถียงกลับ เพราะโดนหักหน้าต่อหน้าเพื่อนใหม่
ในเชิงว่าแจนมาเกาะมาอาศัยแป้งอยู่  แจนน้อยใจก็โทรบอกทางบ้าน  ว่าจะแยกกับแป้ง  เลยขอเงินจ่ายค่าห้องเพิ่มเพราะจะย้ายไปอยู่คนเดียว  ทาง บ้านแจน ก็ตามใจ จัดการให้

แจนเลยย้ายข้าวของไปอยู่หอคนเดียว แป้งก็พยายามมาง้อในวันที่แจนจ้างรถมาย้ายของนะ  แต่แจนไม่เอาแล้ว  เพราะเบื่อ  สภาพแวดล้อมแบบนี้เต็มที เสียสุขภาพจิต  และอ่านหนังสือไม่เต็มที่

พอแจน ย้ายมาอยู่หอพักคนเดียว แป้งก็เทียวมาหา มาทำดีและขอโทษแจน เพราะแจน เป็นเพื่อนดีๆคนเดียวที่แป้งมีจริงๆ แป้งไม่ใช่ไม่รู้นะ ว่าเพื่อนที่คบๆไปไหนมาไหนอยู่นั่น พึ่งพาอะไรไม่ได้หรอก  นอกจากพากันเที่ยว ที่แป้งถูกหนีบไปไหนมาไหนด้วยกับกลุ่มสังคมใหม่ เพราะดูเป็นคนสวย มีตัง ตังที่ได้มาจากการทำงานด้านมืด ขัดกับสีผิวของตัวที่ดูขาวสว่าง  เพราะแป้งดูแลตัวเองดี ไม่ปล่อยให้โทรมเลย

แจนก็หายโกรธนะ  อภัยให้  เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน  ยังไงก็เพื่อนร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกัน  แต่แจนไม่กลับไปอยู่บ้านเช่ากับแป้งแล้ว  เพราะไม่อยากไปเจอสังคมนั้นของแป้งอีก  แจนบอกขออยู่แบบนี้  เจอกันเวลาคิดถึงแล้วกัน  ตนเองไม่อยากไปด่าเพื่อนใหม่ของแป้งให้แป้งเสียหน้า

แจนก็ติดต่อแป้งทางไลน์  ทางเฟส  และทางโทรเอาเป็นหลัก   ตัวแป้งเองก็มีคนมาชอบพอหลากหลายวงการในหาดใหญ่และใกล้เคียง  แน่นอนว่าฐานะดีทุกคน แต่แป้งก็หลอกสูบเงิน  สับรางเก่งมาก  พอคนไหนเริ่มจะจับได้ว่าแป้งคบหลายคน แป้งก็จะตีรวน  หาเรื่องเลิก   มีพวกเมียหลวงของผู้ชายที่มาปรนเปรอแป้งบางคนสืบรู้ มาตามเล่นงานแป้งถึงบ้านเช่า  จนแป้งต้องเผ่นหนีมาขอนอนห้องแจนก็หลายครั้ง เพื่อหลบภัยและใกล้เพื่อน  สุดท้ายแป้งก็ย้ายบ้านเช่าไปอยู่บ้านเช่าทางเขต  ถนนปุณกัณฑ์  เพื่อหลบการไล่ล่าจากบรรดาเมียหลวง   แจนก็ขอให้แป้งเลิกทำนิสัยนี้เสียที

ขายตัวก็บาปพอแล้ว ยังจะไปหลอกสูบเงิน ทำครอบครัวคนอื่นร้าวฉาน

กรรมมันจะตามทันเอานะ แต่แป้งไม่แคร์ แป้งบอกว่า พวกคนที่มาติดพันแป้ง เขาเสนอหน้ามาให้เอง ตนก็แค่รับไว้

ในช่วงนั้น แจนบอกว่าแป้ง  คบคนมีเงินพร้อมๆกันถึง 3 คน ในฐานะบ้านเล็กเด็กเสี่ย แล้วแป้งก็มีโทรศัพท์ถึง 3 เครื่อง เวลาอยู่กับคนนั้นก็จะเอาโทรศัพท์เครื่องนั้นไป  อีก 2 เครื่องก็จะเก็บไว้สับเปลี่ยน ส่วนงานอย่างว่าก็ยังแอบทำ แต่จะรับแค่เสี่ยมาเลย์  เพราะหากรับคนไทย กลัวจะไปเจอคนรู้จักกับเสี่ยที่ตัวเองคั่วอยู่ แบบนัดเจอกันที่โรงแรมเลย งานไหนที่ไม่อยากรับ  ก็จะส่งเพื่อนในสังกัดไปแทน

การประพฤติผิดในกามของแป้งเข้าขั้นโคม่า  คือรักษาไม่ได้แล้ว   แจนเคยพยายามชวนแป้งไปทำบุญ  เข้าวัดเข้าวา  เผื่อจิตใจจะเกิดความเย็นขึ้นมาบ้าง  แต่แป้งก็ไปแบบท่องเที่ยวมากกว่าไปทำบุญ   คือไปถ่ายรูปลงเฟสอวดเพื่อนว่ามาทำบุญที่วัด  แต่จริงๆแล้ว  แป้งก็ทำแบบ  เออ ทำๆไปเหอะ มากกว่าจะมีความตั้งใจ  แป้งไปซื้อหมาพันธุ์ปอมๆมาเลี้ยง พาไปไหนมาไหนด้วยตลอด เรียกว่ารักหมาตัวนี้มากๆ   หมาน้อยก็แสนรู้ ขี้อ้อนมากเวลาเจอแป้ง     แต่เวลาต้องไปธุระไกลๆหลายวัน ก็ไม่พ้นแจน  เพราะแป้งจะแวะมาฝากกุญแจบ้านไว้ที่แจน   ให้ช่วยแวะไปดูหมาที่บ้านเช่า หน่อย ประมาณนี้  แจนก็เลยซี้กับหมาของแป้งไปเลย

จนมาถึงวันที่แป้งจากไป…

ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิป
ติดตามเรื่องผีผี RedMoon ค่ำคืนสีเลือด
อ่านเรื่องผีอื่นๆ GhostStorythai.com

แชร์เรื่องนี้

เรื่องอื่นๆ